เป็นเมนส์แล้วร้องไห้เกิดจากอะไร
เมื่อเป็นเมนส์ ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอาจส่งผลต่อสารสื่อประสาทในสมอง ทำให้ควบคุมอารมณ์ได้ยากขึ้น และความอดทนต่อความเจ็บปวดลดลง ส่งผลให้รู้สึกอ่อนไหวและเศร้าได้ง่าย ลองทานอาหารที่มีทริปโตเฟน เช่น ถั่วเหลือง ไข่ หรือช็อกโกแลต เพื่อช่วยปรับสมดุลอารมณ์นะคะ
น้ำตาแห่งวันแดงเดือด: ทำไมถึงเศร้าเมื่อมีประจำเดือน?
สำหรับผู้หญิงหลายคน ช่วงมีประจำเดือนไม่ใช่แค่เรื่องของการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย แต่มักมาพร้อมกับคลื่นอารมณ์ที่ผันผวน บางครั้งก็หงุดหงิด ฉุนเฉียว บางครั้งก็อ่อนไหว และบ่อยครั้งที่จบลงด้วยน้ำตา อาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเรา “อ่อนแอ” หรือ “เรื่องมาก” แต่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์รองรับ
เบื้องหลังม่านน้ำตานั้น คือการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนอย่างรวดเร็วในช่วงก่อนและระหว่างมีประจำเดือน การลดลงของฮอร์โมนเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสารสื่อประสาทในสมอง โดยเฉพาะเซโรโทนิน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอารมณ์ ความรู้สึกเจ็บปวด และการนอนหลับ เมื่อระดับเซโรโทนินลดลง เราก็จะรู้สึกหดหู่ เศร้า อ่อนไหว และไวต่อความเจ็บปวดมากขึ้น จึงไม่แปลกที่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ปกติไม่ทำให้เราสะเทือนใจ กลับกลายเป็นชนวนน้ำตาได้ในช่วงเวลานี้
นอกจากนี้ อาการปวดท้อง ปวดหัว ท้องอืด และอาการไม่สบายตัวอื่นๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างมีประจำเดือน ก็เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดความเครียดและความหงุดหงิด ซึ่งยิ่งซ้ำเติมความรู้สึกแย่ลงไปอีก
แม้ว่าการรับประทานอาหารที่มีทริปโตเฟนสูง เช่น ถั่วเหลือง ไข่ หรือดาร์กช็อกโกแลต อาจช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนินและบรรเทาอาการได้บ้าง แต่สิ่งสำคัญคือการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเบาๆ ฝึกการหายใจ ทำสมาธิ หรือหากิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง พูดคุยกับเพื่อนสนิท การเปิดใจพูดคุยกับคนรอบข้างเกี่ยวกับความรู้สึกของตนเองก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้
หากอาการเหล่านี้รุนแรงและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม อย่าปล่อยให้น้ำตาแห่งวันแดงเดือดกลายเป็นความทุกข์ที่ต้องแบกรับเพียงลำพัง เพราะการเข้าใจและดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีคือกุญแจสำคัญสู่การมีสุขภาพกายและใจที่ดีในทุกช่วงเวลาของเดือน
#ประจำเดือน#ร้องไห้#อารมณ์ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต