แผลปริ ต้องเย็บใหม่ไหม

แผลผ่าคลอดปริ: ต้องเย็บใหม่หรือไม่? ความเข้าใจและการดูแลที่คุณควรรู้

การผ่าคลอดเป็นการตัดสินใจทางการแพทย์ที่สำคัญ และหลังจากที่ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวแล้ว การดูแลสุขภาพของคุณแม่หลังคลอดก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน หนึ่งในความกังวลที่พบบ่อยคือเรื่องของ “แผลผ่าคลอดปริ” ซึ่งสร้างความกังวลใจและคำถามมากมายว่า “จะต้องเย็บใหม่หรือไม่?”

บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุ อาการที่ต้องสังเกต และแนวทางการรักษาเบื้องต้นเกี่ยวกับแผลผ่าคลอดปริ เพื่อให้คุณสามารถดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสมและลดความกังวลใจ

แผลผ่าคลอดปริ… เกิดจากอะไร?

แผลผ่าคลอดปริ หมายถึง การแยกตัวของขอบแผลผ่าตัด ซึ่งอาจเกิดจากหลายปัจจัยดังนี้:

• แรงดันในช่องท้อง: การไอ จาม เบ่งถ่าย หรือยกของหนักในช่วงหลังคลอด อาจเพิ่มแรงดันในช่องท้องและส่งผลให้แผลปริได้
• การติดเชื้อ: การติดเชื้อที่แผลผ่าตัดทำให้เนื้อเยื่ออ่อนแอลงและเสี่ยงต่อการปริมากขึ้น
• การสมานแผลที่ไม่ดี: ปัจจัยส่วนบุคคล เช่น สุขภาพโดยรวม ภาวะโภชนาการที่ไม่ดี หรือโรคประจำตัวบางชนิด อาจส่งผลต่อการสมานแผล
• เทคนิคการผ่าตัด: ในบางกรณี เทคนิคการเย็บแผลที่ไม่เหมาะสมก็อาจเป็นสาเหตุให้แผลปริได้
• การดูแลแผลที่ไม่ถูกต้อง: การทำความสะอาดแผลไม่ถูกวิธี การสัมผัสแผลด้วยมือที่ไม่สะอาด หรือการใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป อาจทำให้แผลปริได้

สังเกตอาการอย่างไร?

อาการของแผลผ่าคลอดปริอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการปริ แต่โดยทั่วไปคุณแม่อาจสังเกตอาการเหล่านี้:

• ปวดแผลมากขึ้น: อาการปวดอาจรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือมีลักษณะปวดแปลบ
• มีเลือดหรือหนองไหลจากแผล: ปริมาณของเลือดหรือหนองอาจแตกต่างกันไป
• แผลบวมแดง: บริเวณแผลอาจมีอาการบวม แดง ร้อน และกดเจ็บ
• มองเห็นเนื้อเยื่อภายในแผล: ในกรณีที่แผลปริมาก อาจมองเห็นเนื้อเยื่อภายในแผลได้

ต้องเย็บใหม่หรือไม่? ตัดสินใจโดยใคร?

คำถามที่ว่า “จะต้องเย็บใหม่หรือไม่?” เป็นคำถามที่ต้องได้รับการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น การตัดสินใจว่าจะต้องเย็บแผลใหม่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่:

• ขนาดและความลึกของแผล: หากแผลปริไม่มากและตื้น แพทย์อาจพิจารณาให้ดูแลแผลโดยไม่ต้องเย็บซ่อม แต่หากแผลปริลึกและกว้าง การเย็บซ่อมอาจจำเป็นเพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้แผลสมานได้ดีขึ้น
• ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ: หากมีสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น มีหนองไหล แพทย์อาจต้องให้ยาปฏิชีวนะร่วมกับการเย็บซ่อม
• สุขภาพโดยรวมของคุณแม่: สุขภาพโดยรวมและโรคประจำตัวของคุณแม่ก็มีผลต่อการตัดสินใจ เนื่องจากอาจส่งผลต่อการสมานแผล

การดูแลเบื้องต้นเมื่อสงสัยว่าแผลปริ

หากคุณแม่สงสัยว่าแผลผ่าคลอดของตนเองปริ สิ่งที่ควรทำคือ:

• รีบปรึกษาแพทย์ทันที: อย่ารอช้าที่จะปรึกษาแพทย์หรือไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
• รักษาความสะอาดของแผล: ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสแผล และทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์
• หลีกเลี่ยงการยกของหนัก: งดเว้นกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากในช่วงแรก
• พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
• ทานอาหารที่มีประโยชน์: ทานอาหารที่มีโปรตีนสูงและวิตามินต่างๆ เพื่อช่วยในการสมานแผล

สรุป

แผลผ่าคลอดปริเป็นภาวะที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ การสังเกตอาการผิดปกติและรีบปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด อย่าลังเลที่จะขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะการได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณแม่ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย เพื่อให้คุณได้ใช้เวลาอันมีค่ากับลูกน้อยได้อย่างเต็มที่