แผลแห้งแล้วต้องล้างไหม

5 การดู

หลังจากแผลแห้ง ให้ดูแลรักษาความสะอาดบริเวณแผลต่อเนื่องเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสแผล เปลี่ยนผ้าพันแผลเป็นประจำตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้แผลหายเร็วและเรียบเนียน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

แผลแห้งแล้ว…ยังต้องดูแลไหม? ไขข้อข้องใจเรื่องการดูแลแผลหลังสมาน

เมื่อผิวหนังเกิดบาดแผล ไม่ว่าจะเป็นแผลถลอก แผลมีดบาด หรือแผลผ่าตัด ร่างกายเราจะเริ่มกระบวนการสมานแผลตามธรรมชาติ ซึ่งมักจะเริ่มต้นด้วยการเกิดสะเก็ดแผลปกคลุมบริเวณนั้น เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและการติดเชื้อ หลายคนอาจสงสัยว่าเมื่อแผลแห้งและมีสะเก็ดแล้ว จำเป็นต้องดูแลอะไรอีกหรือไม่? คำตอบคือ จำเป็นอย่างยิ่ง

ถึงแม้ว่าสะเก็ดแผลจะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันเบื้องต้น แต่การดูแลรักษาความสะอาดอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แผลสมานได้ดี ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นที่ไม่พึงประสงค์

ทำไมต้องดูแลแผลแห้ง?

  • ป้องกันการติดเชื้อ: แม้ว่าสะเก็ดแผลจะช่วยป้องกันในระดับหนึ่ง แต่เชื้อโรคขนาดเล็กก็ยังสามารถแทรกซึมเข้าไปในบริเวณรอบแผลได้ การรักษาความสะอาดจะช่วยลดจำนวนเชื้อโรคและป้องกันการติดเชื้อซ้ำ
  • ส่งเสริมการสมานแผล: การดูแลความสะอาดจะช่วยให้เซลล์ผิวหนังสามารถสร้างเนื้อเยื่อใหม่ได้อย่างราบรื่น ทำให้แผลสมานได้เร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
  • ลดความเสี่ยงของรอยแผลเป็น: การรักษาความชุ่มชื้นบริเวณแผล และหลีกเลี่ยงการรบกวนสะเก็ดแผล จะช่วยลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็นนูน หรือรอยแผลเป็นสีคล้ำ
  • บรรเทาอาการคัน: ในช่วงที่แผลกำลังสมาน อาจมีอาการคันบริเวณรอบๆ การดูแลความสะอาดและให้ความชุ่มชื้น จะช่วยบรรเทาอาการคัน และลดโอกาสในการเกา ซึ่งอาจทำให้แผลเปิดและติดเชื้อได้

วิธีการดูแลแผลแห้งอย่างถูกวิธี:

  1. ล้างมือให้สะอาด: ก่อนสัมผัสแผลทุกครั้ง ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาด หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ
  2. ทำความสะอาดแผล: ใช้น้ำเกลือ (Normal Saline) หรือน้ำสะอาดที่ผ่านการต้มแล้ว ทาเบาๆ บริเวณแผลและรอบๆ โดยหลีกเลี่ยงการเช็ดถูแรงๆ ที่อาจทำให้สะเก็ดแผลหลุดออก
  3. ให้ความชุ่มชื้น: ทาครีม หรือขี้ผึ้งที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ บริเวณแผลและรอบๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้น และป้องกันผิวแห้งแตก
  4. ปิดแผล (ถ้าจำเป็น): หากแผลอยู่ในบริเวณที่อาจเสียดสีกับเสื้อผ้า หรือสัมผัสกับสิ่งสกปรกได้ง่าย ควรปิดแผลด้วยผ้าก๊อซ หรือแผ่นปิดแผลที่สะอาด
  5. เปลี่ยนผ้าพันแผล: เปลี่ยนผ้าพันแผล หรือแผ่นปิดแผลเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง หรือเมื่อผ้าพันแผลเปียกชื้น
  6. หลีกเลี่ยงการแกะ เกา หรือรบกวนสะเก็ดแผล: ปล่อยให้สะเก็ดแผลหลุดออกเองตามธรรมชาติ การแกะสะเก็ดแผลอาจทำให้แผลเปิด เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และเพิ่มโอกาสการเกิดรอยแผลเป็น
  7. ปรึกษาแพทย์: หากพบว่าแผลมีอาการบวมแดง มีหนอง หรือมีอาการเจ็บปวดมากขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

ข้อควรระวัง:

  • ควรหลีกเลี่ยงการใช้แอลกอฮอล์ หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ในการทำความสะอาดแผล เพราะอาจทำให้ผิวแห้ง และชะลอการสมานแผล
  • หากมีอาการแพ้ต่อครีม หรือขี้ผึ้งที่ใช้ ควรหยุดใช้ทันที และปรึกษาแพทย์

โดยสรุปแล้ว การดูแลแผลหลังจากที่แผลแห้งและมีสะเก็ด ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การทำความสะอาด การให้ความชุ่มชื้น และการปกป้องแผลจากสิ่งสกปรก จะช่วยให้แผลสมานได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นที่ไม่พึงประสงค์ เพียงเท่านี้ เราก็สามารถมั่นใจได้ว่าผิวหนังจะกลับมาเรียบเนียนสวยงามดังเดิม