โรคขาดวิตามิน B12 จะมีอาการอย่างไร

5 การดู

อาการขาดวิตามินบี 12 อาจเริ่มจากความเหนื่อยล้าเรื้อรัง ปวดลิ้นหรือมีแผลในปาก ชาตามปลายมือปลายเท้า เดินเซหรือทรงตัวไม่ดี และอาจมีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย หากพบอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที อย่าปล่อยไว้นาน อาจส่งผลกระทบต่อระบบประสาทอย่างร้ายแรง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

วิตามินบี 12 เป็นวิตามินที่สำคัญต่อการทำงานของระบบประสาท การสร้างเม็ดเลือดแดง และการสังเคราะห์ DNA การขาดวิตามินบี 12 แม้เพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้อย่างมาก โดยเฉพาะในระยะยาว อาการของโรคขาดวิตามินบี 12 มักจะแสดงออกอย่างช้าๆ และคล้ายคลึงกับอาการของโรคอื่นๆ ทำให้การวินิจฉัยเป็นไปได้ยาก ดังนั้น การสังเกตความผิดปกติของร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ

อาการเริ่มต้นของการขาดวิตามินบี 12 ที่พบบ่อยคือ ความรู้สึกเหนื่อยล้าเรื้อรัง แม้จะพักผ่อนเพียงพอแล้วก็ตาม ความเหนื่อยล้านี้อาจรุนแรงถึงขั้นทำให้กิจวัตรประจำวันหยุดชะงักได้ นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ใจสั่น หายใจลำบาก ร่วมด้วย ซึ่งมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของโรคอื่นๆ เช่น โรคหัวใจ หรือโรคปอด

ในช่องปาก อาจพบ ลิ้นบวมแดง เจ็บ หรือมีแผลในปาก ซึ่งส่งผลต่อการรับรสชาติอาหาร และทำให้การรับประทานอาหารเป็นไปอย่างยากลำบาก บางรายอาจมีอาการ ปากแห้ง แสบร้อนในปาก ร่วมด้วย

อาการทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยคือ อาการชา รู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่ม หรือปวดแสบปวดร้อนตามปลายมือปลายเท้า บางรายอาจมีอาการ กล้ามเนื้ออ่อนแรง เดินเซ ทรงตัวไม่ดี สูญเสียการรับรู้ความรู้สึกสัมผัส และการประสานงานของร่างกายบกพร่อง อาการเหล่านี้หากปล่อยทิ้งไว้นาน อาจนำไปสู่ความพิการได้

นอกจากอาการทางกาย การขาดวิตามินบี 12 ยังส่งผลต่อสุขภาพจิต โดยอาจทำให้เกิด ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล สับสน หลงลืม และมีปัญหาเรื่องความจำ ในบางราย อาจมีอาการ หงุดหงิดง่าย เปลี่ยนแปลงอารมณ์ฉับพลัน และมีพฤติกรรมก้าวร้าว

สิ่งสำคัญคือ หากคุณมีอาการเหล่านี้ อย่าเพิ่งวินิจฉัยตัวเอง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้อง แพทย์จะทำการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับวิตามินบี 12 ในร่างกาย และอาจทำการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ เพื่อแยกโรคที่มีอาการคล้ายคลึงกัน การรักษาภาวะขาดวิตามินบี 12 ส่วนใหญ่มักจะทำได้โดยการรับประทานวิตามินบี 12 เสริม หรือฉีดวิตามินบี 12 ตามคำแนะนำของแพทย์ การรักษาอย่างทันท่วงที จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นกับระบบประสาทได้