โรงพยาบาลรัฐ มีวัคซีนHPV ไหม

วัคซีน HPV ในโรงพยาบาลรัฐ: ทางเลือกและความเข้าใจที่ถูกต้อง

จากข้อมูลที่เผยแพร่ออกมา กรมควบคุมโรคได้ดำเนินการฉีดวัคซีน HPV ให้กับเด็กผู้หญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ทั่วประเทศฟรี ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการป้องกันมะเร็งปากมดลูกในระยะยาว แต่นั่นก็ทำให้เกิดคำถามและความสงสัยว่า แล้ววัคซีน HPV มีให้บริการในโรงพยาบาลรัฐสำหรับประชาชนทั่วไปหรือไม่? และหากมี จะมีเงื่อนไขหรือข้อจำกัดอะไรบ้าง? บทความนี้จะช่วยคลายข้อสงสัยและให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้

วัคซีน HPV ในโรงพยาบาลรัฐ: มีให้บริการ แต่…

โดยทั่วไปแล้ว วัคซีน HPV มีให้บริการในโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศ แต่การเข้าถึงอาจไม่ได้เป็นไปในรูปแบบเดียวกับโครงการฉีดวัคซีนฟรีสำหรับเด็กนักเรียน การให้บริการวัคซีน HPV ในโรงพยาบาลรัฐมักมีลักษณะดังนี้:

• มีค่าใช้จ่าย: ผู้ที่ต้องการรับวัคซีน HPV จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละโรงพยาบาล ขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีนและค่าบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
• กลุ่มเป้าหมาย: แม้ว่าวัคซีน HPV จะได้รับอนุมัติให้ใช้ในกลุ่มอายุที่กว้างขึ้น แต่ในโรงพยาบาลรัฐ มักให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายหลักคือ ผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 9-26 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่วัคซีนมีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการติดเชื้อ HPV ก่อนการสัมผัสเชื้อครั้งแรก
• การปรึกษาแพทย์: ก่อนการฉีดวัคซีน HPV จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมและความเสี่ยงต่างๆ โดยแพทย์จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีน ชนิดของวัคซีนที่เหมาะสม และจำนวนเข็มที่ต้องฉีด
• ชนิดของวัคซีน: โรงพยาบาลรัฐส่วนใหญ่อาจมีวัคซีน HPV ให้เลือกเพียงบางชนิด ซึ่งอาจแตกต่างจากวัคซีนที่ใช้ในโครงการฉีดวัคซีนฟรีสำหรับเด็กนักเรียน ดังนั้น ควรสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลก่อน

ทำไมต้องฉีดวัคซีน HPV?

เชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ HPV ยังเป็นสาเหตุของโรคอื่นๆ เช่น หูดหงอนไก่ และมะเร็งที่อวัยวะอื่นๆ ได้อีกด้วย การฉีดวัคซีน HPV จึงเป็นการป้องกันที่มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเหล่านี้

ใครควรฉีดวัคซีน HPV?

• ผู้หญิงอายุ 9-26 ปี: เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่ควรได้รับวัคซีน HPV เนื่องจากวัคซีนมีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการติดเชื้อก่อนการสัมผัสเชื้อครั้งแรก
• ผู้ชายอายุ 9-26 ปี: แม้จะไม่เป็นมะเร็งปากมดลูก แต่ผู้ชายก็สามารถติดเชื้อ HPV และแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้ นอกจากนี้ HPV ยังเป็นสาเหตุของมะเร็งที่อวัยวะเพศชายและทวารหนักได้อีกด้วย
• ผู้ที่มีอายุมากกว่า 26 ปี: แม้ว่าวัคซีนจะมีประสิทธิภาพน้อยกว่าในกลุ่มอายุนี้ แต่การฉีดวัคซีนก็ยังสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยติดเชื้อได้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสม

ข้อควรจำ:

• การฉีดวัคซีน HPV ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap smear) เป็นประจำ การตรวจคัดกรองยังคงมีความจำเป็นเพื่อตรวจหาความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น
• วัคซีน HPV ป้องกันได้เฉพาะบางสายพันธุ์ของเชื้อ HPV เท่านั้น ดังนั้น การป้องกันตนเองจากการติดเชื้อ HPV ด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การใช้ถุงยางอนามัย และการมีคู่นอนเพียงคนเดียว ก็ยังมีความสำคัญ

สรุป:

วัคซีน HPV มีให้บริการในโรงพยาบาลรัฐ แต่มีค่าใช้จ่ายและอาจมีเงื่อนไขบางประการ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมและรับข้อมูลที่ถูกต้อง หากท่านมีความสนใจที่จะรับวัคซีน HPV สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากโรงพยาบาลรัฐใกล้บ้านท่าน