Cortisol ทำหน้าที่อะไร

2 การดู

ฮอร์โมนคอร์ติซอลควบคุมการเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน ช่วยรักษาความดันโลหิต และมีบทบาทสำคัญในการตอบสนองต่อความเครียด ระดับคอร์ติซอลที่เหมาะสมจำเป็นต่อสุขภาพที่ดี ทั้งการทำงานของสมองและระบบภูมิคุ้มกัน แต่ระดับที่สูงหรือต่ำเกินไปส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือความอ่อนล้าเรื้อรัง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

คอร์ติซอล: ผู้ควบคุมดุลยภาพร่างกาย ระหว่างความแข็งแกร่งและความอ่อนล้า

คอร์ติซอล (Cortisol) ฮอร์โมนสเตียรอยด์ที่สร้างขึ้นในต่อมหมวกไต เปรียบเสมือนผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการคนสำคัญของร่างกาย มีบทบาทหลากหลาย ตั้งแต่การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไปจนถึงการตอบสนองต่อความเครียด การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของคอร์ติซอลจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่สุขภาพที่ดี แต่ความสมดุลนั้นเปราะบาง ระดับคอร์ติซอลที่ไม่ปกติ ไม่ว่าจะสูงหรือต่ำเกินไป ล้วนก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอย่างเห็นได้ชัด

หน้าที่หลักของคอร์ติซอล:

การทำงานของคอร์ติซอลนั้นซับซ้อน แต่สามารถสรุปหน้าที่หลักได้ดังนี้:

  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด (Glucose Metabolism): คอร์ติซอลกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงไกลโคเจน (Glycogen) ในตับให้กลายเป็นกลูโคส (Glucose) เพิ่มระดับน้ำตาลในกระแสเลือด ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญสำหรับสมองและกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะในภาวะเครียดหรืออดอาหาร คอร์ติซอลจะทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

  • ควบคุมการเผาผลาญไขมัน (Lipid Metabolism): คอร์ติซอลมีบทบาทสำคัญในการสลายไขมัน ช่วยให้ร่างกายนำไขมันมาใช้เป็นพลังงาน โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องใช้พลังงานอย่างหนัก เช่น การออกกำลังกายอย่างหนักหรือภาวะเครียด อย่างไรก็ตาม การหลั่งคอร์ติซอลในปริมาณมากและต่อเนื่องอาจส่งผลให้ไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ

  • ควบคุมความดันโลหิต (Blood Pressure Regulation): คอร์ติซอลช่วยรักษาความดันโลหิตให้คงที่ โดยการเพิ่มการดูดซึมโซเดียมและน้ำ ซึ่งมีผลต่อปริมาณของเหลวในร่างกายและความดันโลหิต

  • ตอบสนองต่อความเครียด (Stress Response): นี่คือหน้าที่ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย เมื่อร่างกายเผชิญกับความเครียด ไม่ว่าจะเป็นความเครียดทางกายภาพ จิตใจ หรืออารมณ์ ต่อมหมวกไตจะปล่อยคอร์ติซอลออกมา เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมรับมือ เช่น เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มการตื่นตัวของประสาทสัมผัส อย่างไรก็ตาม หากความเครียดเป็นระยะเวลายาวนาน การหลั่งคอร์ติซอลอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว

  • การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System): คอร์ติซอลมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน โดยช่วยควบคุมการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบที่รุนแรงเกินไป แต่ในปริมาณที่สูงเกินไป อาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

ผลกระทบของระดับคอร์ติซอลที่ผิดปกติ:

  • ระดับคอร์ติซอลสูงเกินไป (Hypercortisolism): อาจเกิดจากโรคคูชชิ่งซินโดรม ส่งผลให้มีอาการเช่น น้ำหนักเพิ่ม ไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง ความดันโลหิตสูง ผิวบาง และปัญหาเกี่ยวกับกระดูก

  • ระดับคอร์ติซอลต่ำเกินไป (Hypocortisolism): อาจเกิดจากโรคแอดดิสัน ส่งผลให้มีอาการเช่น ความอ่อนล้า น้ำหนักลด ความดันโลหิตต่ำ คลื่นไส้ และอาเจียน

สรุป:

คอร์ติซอลเป็นฮอร์โมนสำคัญที่มีบทบาทหลากหลายต่อร่างกาย การรักษาระดับคอร์ติซอลให้สมดุลจึงจำเป็นอย่างยิ่งต่อสุขภาพที่ดี การจัดการความเครียด การรับประทานอาหารที่ดี และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ล้วนเป็นวิธีการที่ช่วยรักษาสมดุลของคอร์ติซอลและส่งเสริมสุขภาพที่ดีในระยะยาว หากมีข้อสงสัยหรือพบความผิดปกติเกี่ยวกับระดับคอร์ติซอล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม