Ortho คือแผนกอะไร

ย้อนรอยเข้าใจ “ORTHO” : มากกว่าแค่การผ่าตัดกระดูก

หลายคนคุ้นเคยกับคำว่า “ORTHO” หรือ “แผนกออร์โธปิดิกส์” (Orthopedics) แต่ความเข้าใจอาจจำกัดอยู่เพียงการผ่าตัดกระดูกเท่านั้น ความจริงแล้ว แผนกออร์โธปิดิกส์มีความครอบคลุมและซับซ้อนกว่านั้นมาก เป็นสาขาแพทย์ที่มุ่งเน้นการรักษาโรคและความผิดปกติของระบบโครงร่าง ซึ่งรวมถึงกระดูก ข้อต่อ กล้ามเนื้อ เอ็น และเส้นประสาทที่เกี่ยวข้อง

แผนก ORTHO ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การผ่าตัดเพียงอย่างเดียว แม้การผ่าตัดจะเป็นส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่รุนแรง แต่การรักษาในแผนกนี้ครอบคลุมวิธีการต่างๆ อย่างหลากหลาย อาทิเช่น:

• การรักษาแบบไม่ผ่าตัด: นี่คือแนวทางการรักษาที่แพทย์จะพิจารณาเป็นลำดับแรก โดยอาจใช้ยาแก้ปวด การกายภาพบำบัด การจัดกระดูก การใส่เฝือกหรืออุปกรณ์ช่วยพยุง เพื่อบรรเทาอาการและช่วยให้ร่างกายฟื้นตัว วิธีการนี้เหมาะสำหรับอาการเล็กน้อย หรือเป็นการเตรียมก่อนการผ่าตัดในบางกรณี

• การกายภาพบำบัด: เป็นส่วนสำคัญในการรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ นักกายภาพบำบัดจะออกแบบโปรแกรมการฝึกฝนเฉพาะบุคคล เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มความยืดหยุ่น และปรับปรุงการเคลื่อนไหว ช่วยลดอาการปวด และป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำ

• การใช้ยา: แพทย์อาจสั่งจ่ายยาเพื่อบรรเทาอาการปวด ลดการอักเสบ หรือควบคุมอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคของระบบโครงร่าง

• การผ่าตัด: เป็นวิธีการรักษาสุดท้าย ใช้เมื่อวิธีการอื่นไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การผ่าตัดในแผนก ORTHO มีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การผ่าตัดเล็กๆ จนถึงการผ่าตัดใหญ่ที่ซับซ้อน ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของโรค

โรคและความผิดปกติที่แผนก ORTHO รับผิดชอบรักษา มีตั้งแต่ปัญหาเล็กน้อย เช่น อาการปวดหลัง ปวดข้อ กล้ามเนื้ออักเสบ ไปจนถึงโรคที่รุนแรง เช่น กระดูกหัก ข้ออักเสบ โรคกระดูกพรุน มะเร็งกระดูก และความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกตั้งแต่กำเนิด

ดังนั้น การเข้าใจว่าแผนก ORTHO มีความหมายกว้างกว่าการผ่าตัดเพียงอย่างเดียว จะช่วยให้เราเข้าใจกระบวนการรักษาได้อย่างถูกต้อง และสามารถปรึกษาแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรับการวินิจฉัยและแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของเรา อย่าลังเลที่จะสอบถามแพทย์ ถึงวิธีการรักษาต่างๆ ที่มี เพื่อให้คุณได้รับการดูแลที่ดีที่สุด

บทความนี้มุ่งเน้นให้ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับแผนก ORTHO และไม่สามารถใช้ทดแทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ ควรปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยหรือปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ