23 ตารางเมตรใช้แอร์กี่บีทียู

เคล็ดลับเลือกแอร์ให้ห้อง 23 ตร.ม. ไม่ให้เปลืองไฟ แถมเย็นฉ่ำชื่นใจ

ห้องขนาด 23 ตารางเมตร กำลังเป็นที่นิยมในคอนโดมิเนียมและอพาร์ทเม้นท์สมัยใหม่ การเลือกเครื่องปรับอากาศ (แอร์) ที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยให้ห้องเย็นสบายแล้ว ยังส่งผลต่อค่าไฟในกระเป๋าของคุณอีกด้วย หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาว่าห้องขนาดนี้ ควรใช้แอร์ขนาด 18,000-20,000 BTU แต่จริงๆ แล้วมีปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องนำมาพิจารณาควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้ได้แอร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการและประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง

BTU คืออะไร? ทำไมต้องสนใจ?

BTU (British Thermal Unit) เป็นหน่วยวัดปริมาณความร้อนที่แอร์สามารถดึงออกจากห้องได้ในหนึ่งชั่วโมง ยิ่งค่า BTU สูง แอร์ก็จะยิ่งทำความเย็นได้มาก หากเลือกแอร์ที่มี BTU น้อยเกินไป จะทำให้แอร์ทำงานหนักเกินไปเพื่อรักษาอุณหภูมิ ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานและอายุการใช้งานสั้นลง ในทางกลับกัน หากเลือกแอร์ที่มี BTU มากเกินไป ก็อาจจะทำให้ห้องเย็นเร็วเกินไป แอร์ตัดบ่อย และไม่สามารถควบคุมความชื้นในห้องได้อย่างเหมาะสม

ปัจจัยที่มากกว่าขนาดห้องที่ต้องพิจารณา

นอกจากขนาดห้อง 23 ตารางเมตรแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อการเลือกขนาด BTU ที่เหมาะสม ได้แก่

• ความสูงของเพดาน: ห้องที่มีเพดานสูงกว่าปกติ จะมีปริมาตรอากาศมากกว่า ทำให้ต้องใช้แอร์ที่มี BTU สูงขึ้นเพื่อทำความเย็นให้ทั่วถึง
• วัสดุของผนังและหลังคา: ผนังและหลังคาที่ทำจากวัสดุที่เก็บความร้อนได้ดี เช่น คอนกรีต จะทำให้ห้องร้อนเร็วขึ้นและต้องใช้แอร์ที่มี BTU สูงขึ้นกว่าห้องที่มีผนังและหลังคาที่ทำจากวัสดุที่ระบายความร้อนได้ดี
• ทิศทางของห้อง: ห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้ จะได้รับแสงแดดโดยตรงในช่วงบ่าย ทำให้ห้องร้อนกว่าห้องที่หันหน้าไปทางทิศอื่น
• จำนวนคนในห้อง: จำนวนคนในห้องมีผลต่อปริมาณความร้อนที่เกิดขึ้นในห้อง ยิ่งมีคนอยู่มาก ก็ยิ่งต้องใช้แอร์ที่มี BTU สูงขึ้น
• อุปกรณ์ไฟฟ้าในห้อง: อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เช่น ทีวี ตู้เย็น คอมพิวเตอร์ ก็ปล่อยความร้อนออกมาเช่นกัน หากมีอุปกรณ์ไฟฟ้ามาก ก็ควรเลือกแอร์ที่มี BTU สูงขึ้น
• ฉนวนกันความร้อน: หากห้องมีการติดตั้งฉนวนกันความร้อนที่ดี จะช่วยลดปริมาณความร้อนที่เข้ามาในห้อง ทำให้สามารถเลือกใช้แอร์ที่มี BTU น้อยลงได้

แล้วห้อง 23 ตารางเมตร ควรใช้แอร์กี่ BTU กันแน่?

โดยทั่วไปแล้ว ห้องขนาด 23 ตารางเมตร มักจะแนะนำให้ใช้แอร์ขนาด 18,000-20,000 BTU แต่เพื่อให้ได้ขนาดที่เหมาะสมที่สุด ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น หากห้องของคุณมีปัจจัยที่ทำให้ร้อนง่าย เช่น เพดานสูง ผนังเก็บความร้อนได้ดี หรือหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ควรเลือกแอร์ที่มี BTU สูงขึ้นเล็กน้อย อาจจะเลือกเป็น 20,000 BTU หรือมากกว่านั้น

เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อการเลือกแอร์ที่คุ้มค่า

• เลือกแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5: แอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะช่วยประหยัดค่าไฟในระยะยาว
• พิจารณาเลือกแอร์ Inverter: แอร์ Inverter สามารถปรับรอบการทำงานของคอมเพรสเซอร์ได้ ทำให้ประหยัดพลังงานมากกว่าแอร์แบบธรรมดา
• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากไม่แน่ใจว่าจะเลือกแอร์ขนาดไหนดี ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือช่างแอร์ เพื่อขอคำแนะนำ

สรุป

การเลือกแอร์ให้ห้องขนาด 23 ตารางเมตร ไม่ใช่แค่ดูที่ขนาดห้องเพียงอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้ได้แอร์ที่ทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างแท้จริง หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกแอร์ที่เหมาะสมกับห้องของคุณนะครับ