กะปิหวานใส่ส่วนผสมอะไรบ้าง

0 การดู

ลิ้มลองกะปิหวานสูตรพิเศษ! ผสมกะปิอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บเคี่ยวหอม พริกขี้หนูสวนซอยละเอียด น้ำมะนาวสดเล็กน้อย กระเทียมเจียวกรอบ และหอมเจียวโรยหน้า เพิ่มความอร่อยด้วยกุ้งแห้งป่นเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อมผักสดนานาชนิด อร่อยลงตัว!

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สัมผัสรสชาติอันกลมกล่อมของกะปิหวานสูตรพิเศษ

กะปิหวานเป็นน้ำพริกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในภาคใต้ของประเทศไทย ด้วยรสชาติที่แสนอร่อย กลมกล่อม หวานเค็มลงตัว จึงสามารถรับประทานได้ทั้งกับข้าวสวย ผักสด หรืออาหารอื่นๆ อีกมากมาย โดยส่วนผสมหลักของกะปิหวานมีดังนี้

  • กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ ควรเลือกกะปิที่มีคุณภาพดี กลิ่นหอม ไม่เค็มหรือเปรี้ยวจนเกินไป
  • น้ำตาลปี๊บเคี่ยว 1 ช้อนโต๊ะ (หรือตามความชอบ) ใช้เคี่ยวจนได้น้ำตาลปี๊บที่มีสีน้ำตาลเข้ม ข้นหนืด มีกลิ่นหอม
  • พริกขี้หนูสวน 5-7 เม็ด ซอยละเอียด
  • น้ำมะนาวสด 1-2 ช้อนชา
  • กระเทียมเจียว 1 ช้อนชา
  • หอมเจียว 1 ช้อนชา
  • กุ้งแห้งป่น (ไม่จำเป็น) 1 ช้อนชา

วิธีทำกะปิหวาน

  1. ละลายกะปิในน้ำอุ่นเล็กน้อยเพื่อให้นิ่ม
  2. เมื่อกะปิละลายดีแล้ว นำน้ำตาลปี๊บเคี่ยวมาผสม คนให้ละลายและเข้ากัน
  3. ใส่พริกขี้หนูสวนซอย น้ำมะนาว กระเทียมเจียว หอมเจียว และกุ้งแห้งป่น (ถ้ามี) คนให้เข้ากัน
  4. ชิมรส แล้วปรุงรสตามชอบ สามารถเพิ่มน้ำตาล น้ำมะนาว หรือพริกขี้หนูได้ตามความต้องการ
  5. ตักกะปิหวานใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยพริกขี้หนูสดหรือผักชีตามชอบ

เสิร์ฟกะปิหวาน

กะปิหวานสามารถเสิร์ฟได้หลากหลายวิธี เช่น

  • ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ
  • รับประทานกับผักสด เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว ผักบุ้ง
  • เป็นส่วนผสมในเมนูอาหาร เช่น แกงส้ม ยำ หรือน้ำพริกต่างๆ

เคล็ดลับความอร่อย

  • เลือกใช้กะปิคุณภาพดี จะช่วยเพิ่มความกลมกล่อมและความหอมให้กับกะปิหวาน
  • เคี่ยวน้ำตาลปี๊บจนได้สีและความข้นตามต้องการ จะช่วยให้กะปิหวานมีรสชาติเข้มข้น
  • หากไม่มีน้ำตาลปี๊บ สามารถใช้น้ำตาลทรายละลายกับน้ำร้อนแทนได้ แต่รสชาติจะไม่หอมเท่า
  • สามารถเพิ่มหรือลดปริมาณพริกขี้หนูตามความชอบได้
  • การโรยหอมเจียวและกระเทียมเจียวจะช่วยเพิ่มความกรอบและกลิ่นหอม