กาแฟ 1 แก้วมีกี่มิลลิกรัม

23 การดู

เครื่องดื่มประเภทกาแฟและชา ปริมาณคาเฟอีนแตกต่างกันไปตามชนิดและวิธีการชง โดยทั่วไป เอสเปรสโซ่ขนาดช็อตเดียว (ประมาณ 30 มล.) มีคาเฟอีนประมาณ 60-75 มิลลิกรัม ส่วนกาแฟดำร้อน 1 แก้ว (ประมาณ 240 มล.) จะมีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่า โดยขึ้นอยู่กับชนิดเมล็ดกาแฟและการคั่ว

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

กาแฟ 1 แก้วมีกี่มิลลิกรัม? คำตอบไม่มีคำตอบเดียว

การคำนวณปริมาณคาเฟอีนในกาแฟ 1 แก้ว ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะปัจจัยหลายอย่างส่งผลต่อปริมาณคาเฟอีนที่แท้จริง ต่างจากการที่เราสามารถบอกได้ชัดเจนว่าน้ำหนักเท่าไหร่ จะมีสารอาหารเท่าไหร่

ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อปริมาณคาเฟอีนในกาแฟแต่ละแก้ว ได้แก่:

  • ชนิดของเมล็ดกาแฟ: เมล็ดกาแฟแต่ละพันธุ์มีปริมาณคาเฟอีนแตกต่างกันไป บางพันธุ์มีคาเฟอีนสูงกว่า บางพันธุ์ต่ำกว่า เช่นเดียวกับการคั่วกาแฟ การคั่วที่ต่างกันก็ส่งผลต่อปริมาณคาเฟอีนเช่นกัน
  • ปริมาณกาแฟที่ใช้: การชงกาแฟที่ใช้เมล็ดกาแฟมากหรือน้อย จะส่งผลต่อปริมาณคาเฟอีนที่ละลายออกมาในน้ำ กาแฟที่เข้มข้นหรือจืด ก็จะมีปริมาณคาเฟอีนต่างกันไป
  • วิธีการชง: วิธีการชงกาแฟ เช่น การชงแบบฝอย การชงแบบ drip หรือการชงแบบ espresso ก็ส่งผลต่อปริมาณคาเฟอีนที่ได้เช่นกัน การชงแบบ espresso โดยทั่วไปจะได้ปริมาณคาเฟอีนสูงกว่าการชงแบบ drip เพราะเมล็ดได้รับแรงกดดันในการสกัดคาเฟอีนมากขึ้น
  • ขนาดของแก้ว: ขนาดของแก้วกาแฟที่ใช้ก็มีผลต่อปริมาณคาเฟอีนโดยตรง หากใช้แก้วขนาดใหญ่ ปริมาณคาเฟอีนก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

แม้ข้อมูลทั่วไปจะระบุว่าเอสเปรสโซ่ 1 ช็อต (ประมาณ 30 มล.) มีคาเฟอีนประมาณ 60-75 มิลลิกรัม และกาแฟดำร้อน 1 แก้ว (ประมาณ 240 มล.) มีคาเฟอีนสูงกว่า แต่ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ย ค่าที่แท้จริงอาจแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นการสรุปปริมาณคาเฟอีนในกาแฟ 1 แก้ว จำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมด

กล่าวโดยสรุป การบอกปริมาณคาเฟอีนในกาแฟ 1 แก้ว จำเป็นต้องระบุข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของเมล็ดกาแฟ วิธีการชง และปริมาณกาแฟที่ใช้ หากต้องการทราบปริมาณคาเฟอีนที่แน่นอน ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิดกาแฟและวิธีการชงของแต่ละคน