กินมาม่ายังไงให้ได้สารอาหาร

0 การดู

เพื่อสุขภาพที่ดี ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ่อยๆ หากต้องการรับประทาน ควรเลือกแบบไม่ปรุงรส ล้างเส้นด้วยน้ำสะอาดก่อนปรุง เพื่อลดปริมาณโซเดียม ปรุงรสด้วยผักสด เช่น ผักคะน้า แครอท และโปรตีน เช่น ไข่ต้ม เพื่อเพิ่มสารอาหาร ควรควบคุมปริมาณการรับประทานเพื่อสุขภาพที่ดี

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

มาม่า: อร่อยง่าย แต่จะกินยังไงให้ได้สารอาหารมากกว่าแค่เส้นและผงชูรส?

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “มาม่า” คือเพื่อนยากในยามสิ้นคิด เพื่อนคู่ใจในวันที่เร่งรีบ และบางครั้งก็เป็นอาหารปลอบใจในวันที่เหนื่อยล้า ด้วยรสชาติที่ถูกปาก ราคาประหยัด และความสะดวกในการปรุง ทำให้มาม่ากลายเป็นอาหารยอดนิยมของคนทุกเพศทุกวัย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาม่าไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องคุณค่าทางโภชนาการสักเท่าไหร่ การกินมาม่าเป็นประจำอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้

แต่ถ้าความอยากมันมาห้ามไม่ได้จริงๆ จะมีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้การกินมาม่าของเรา “ดีต่อสุขภาพ” ขึ้นมาได้บ้าง? บทความนี้จะมาเจาะลึกเคล็ดลับที่จะทำให้มาม่าจานโปรดของคุณ อิ่มอร่อยและมีสารอาหารมากยิ่งขึ้น

1. เลือกเส้น…ที่ไม่ปรุงรส:

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีหลายแบบ เลือกชนิดที่ไม่ปรุงรส หรือมีปริมาณโซเดียมน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่เราจะได้ควบคุมรสชาติและปริมาณโซเดียมเองได้ตามใจชอบ

2. ล้างเส้น…ลดโซเดียม:

ก่อนปรุงบะหมี่ ควรนำเส้นไปลวกน้ำร้อนทิ้งก่อน 1-2 ครั้ง เพื่อลดปริมาณโซเดียมส่วนเกินที่เคลือบเส้นอยู่ วิธีนี้จะช่วยลดความเค็มและภาระของไตได้

3. ผักคือเพื่อนแท้:

เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการด้วยการใส่ผักสดต่างๆ ลงไปในมาม่า ไม่ว่าจะเป็นผักกาดขาว คะน้า ผักบุ้ง แครอท หรือแม้แต่เห็ดเข็มทอง ผักเหล่านี้จะช่วยเพิ่มวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารให้กับมื้ออาหารของคุณ ทำให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น และได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย

4. โปรตีนเสริมกำลัง:

เติมโปรตีนให้กับมาม่าของคุณ ไม่ว่าจะเป็นไข่ต้ม หมูสับ ไก่ฉีก หรือเต้าหู้ โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการสร้างและซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของร่างกาย การเพิ่มโปรตีนจะทำให้มาม่าของคุณเป็นมื้ออาหารที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

5. เครื่องปรุงโฮมเมด:

หลีกเลี่ยงการใช้ผงปรุงรสที่มาพร้อมกับซองมาม่า เปลี่ยนมาปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่คุณทำเอง เช่น น้ำซุปกระดูกหมู น้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น หรือกระเทียมเจียว คุณสามารถควบคุมปริมาณโซเดียมและรสชาติได้ตามใจชอบ และยังมั่นใจในความสะอาดและคุณภาพของเครื่องปรุงได้อีกด้วย

6. เติมรสชาติด้วยสมุนไพร:

เพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติให้กับมาม่าด้วยสมุนไพรต่างๆ เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด ข่า หรือพริกขี้หนู สมุนไพรเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารของคุณเท่านั้น แต่ยังมีสรรพคุณทางยาที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย

7. กินแต่พอดี:

แม้ว่าจะปรับปรุงมาม่าให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้นแล้ว แต่ก็ควรจำกัดปริมาณการบริโภคให้เหมาะสม การกินมาม่าเป็นประจำอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ควรรับประทานอาหารให้หลากหลายครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน

สรุป:

การกินมาม่าให้อร่อยและได้สารอาหารมากขึ้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และปรับเปลี่ยนวิธีการปรุงให้เหมาะสม เพียงเท่านี้ มาม่าก็จะไม่ใช่แค่อาหารสิ้นคิด แต่จะเป็นมื้ออาหารที่อร่อย ถูกปาก และดีต่อสุขภาพได้เช่นกัน!