คีโตส้มตำกินได้ไหม

4 การดู

คีโตส้มตำกินได้ โดยเลือกเส้นมะละกอหรือตำแตงที่ไม่ใส่น้ำตาลหรือผงชูรส และหลีกเลี่ยงของหวาน เช่น ขนมปัง ไอศกรีม ขนมหวาน พิซซ่า และขนมอื่นๆที่มีสูตรสำหรับคีโต

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

คีโตกับส้มตำ: กินได้ไหม และกินอย่างไรให้ “คีโต” จริงๆ

ส้มตำ อาหารรสชาติจัดจ้านที่ครองใจคนไทยและชาวต่างชาติมายาวนาน ด้วยรสชาติเปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน กลมกล่อม ทำให้ส้มตำเป็นเมนูโปรดของใครหลายคน แต่สำหรับผู้ที่กำลังทานอาหารแบบคีโตเจนิค (Ketogenic Diet) หรือ “คีโต” คงเกิดคำถามขึ้นในใจว่า “ส้มตำกินได้ไหมนะ?” คำตอบคือ กินได้ แต่ต้องเลือก!

หัวใจสำคัญของคีโตคือการลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตซิส (Ketosis) ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนมาใช้ไขมันเป็นพลังงานหลักแทนการใช้น้ำตาลกลูโคสจากคาร์โบไฮเดรต ดังนั้นการจะกินส้มตำแบบ “คีโต” ได้อย่างสบายใจ ต้องใส่ใจในรายละเอียดดังนี้:

1. เลือกวัตถุดิบหลักให้เหมาะสม:

  • เส้น: หลีกเลี่ยงเส้นมะละกอขูดฝอย เพราะมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตสูงกว่าที่คิด ทางเลือกที่ดีกว่าคือ ตำแตง หรือ ตำถั่วฝักยาว ที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตน้อยกว่ามาก หากอยากทานมะละกอจริงๆ ให้เลือก มะละกอดิบหั่นเป็นชิ้นใหญ่ (ไม่ใช่ขูดฝอย) และทานในปริมาณที่พอเหมาะ
  • ผักอื่นๆ: ผักต่างๆ ที่ใส่ในส้มตำ เช่น มะเขือเทศ ถั่วลิสง กะหล่ำปลี สามารถทานได้ แต่ควรจำกัดปริมาณถั่วลิสง เพราะมีคาร์โบไฮเดรตและไขมันสูง

2. ควบคุมรสชาติ:

  • น้ำตาล: สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงเด็ดขาดคือน้ำตาล ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย หรือน้ำเชื่อม เพราะจะทำให้ร่างกายหลุดออกจากภาวะคีโตซิสได้ ทางเลือกคือ สารให้ความหวานที่ไม่ให้พลังงาน เช่น หญ้าหวาน (Stevia) หรือ Erythritol แต่ควรใช้อย่างระมัดระวังและในปริมาณน้อย
  • ผงชูรส: ควรหลีกเลี่ยงผงชูรส เพราะไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการและอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว
  • น้ำปลาและน้ำมะนาว: สามารถใช้ปรุงรสได้ตามปกติ แต่ควรควบคุมปริมาณไม่ให้มากเกินไป

3. เครื่องเคียง:

  • หลีกเลี่ยง: ข้าวเหนียว ขนมจีน และเครื่องเคียงอื่นๆ ที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง
  • เลือก: สามารถทานคู่กับหมูสามชั้นทอดกรอบ หรือไก่ย่าง ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล

4. ทำเองดีที่สุด:

  • การทำส้มตำทานเองที่บ้าน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตและส่วนผสมต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ คุณสามารถปรับสูตรให้เข้ากับความต้องการของคีโตได้อย่างเต็มที่

ข้อควรระวัง:

  • ถึงแม้จะเลือกวัตถุดิบและควบคุมรสชาติแล้ว ก็ควรทานส้มตำในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรทานมากเกินไป เพราะอาจทำให้ได้รับคาร์โบไฮเดรตเกินความจำเป็น
  • ควรตรวจสอบฉลากโภชนาการของวัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้ในการทำส้มตำ เพื่อให้ทราบปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่แท้จริง
  • หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อขอคำแนะนำในการทานอาหารแบบคีโตที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณ

สรุป:

ส้มตำสามารถเป็นส่วนหนึ่งของอาหารคีโตได้ หากเลือกวัตถุดิบที่เหมาะสม ควบคุมรสชาติ และทานในปริมาณที่พอเหมาะ การทำส้มตำทานเองที่บ้านเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตและส่วนผสมต่างๆ ให้เป็นไปตามเป้าหมายของคีโต เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับรสชาติจัดจ้านของส้มตำได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะหลุดออกจากคีโต!