ทำไมถึงเรียกโรตี

1 การดู

โรตี อาหารยอดนิยมจากอนุทวีปอินเดีย มีรากศัพท์มาจากคำว่า rotikā ในภาษาสันสกฤต หมายถึงขนมปัง แป้งโฮลวีทแบบหยาบ (อัตตา) เป็นส่วนประกอบหลัก กรรมวิธีการทำคือการนวดแป้งกับน้ำจนได้ที่ ความนิยมของโรตีแพร่หลายไปทั่วโลก รสชาติและวิธีการปรุงก็แตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ร่องรอยแห่งรากเหง้า: มองหาที่มาของคำว่า “โรตี”

โรตี อาหารจานเด็ดที่หลายคนคุ้นเคยและหลงใหลในรสชาติอันแสนเรียบง่ายแต่ทรงเสน่ห์ แผ่นแป้งบางนุ่มที่สามารถรับประทานได้ทั้งแบบธรรมดาหรือกับเครื่องเคียงหลากหลาย แต่เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมอาหารยอดนิยมจากอนุทวีปอินเดียนี่จึงมีชื่อว่า “โรตี”?

คำตอบนั้นซ่อนอยู่เบื้องหลังความเก่าแก่ของภาษาและวัฒนธรรม รากศัพท์ของคำว่า “โรตี” นั้นสืบย้อนกลับไปได้ถึงภาษาสันสกฤต ภาษาโบราณที่ถือเป็นมารดาของภาษาอินเดียหลายภาษา คำว่า “rotikā” (โรติกา) ในภาษาสันสกฤต นั่นเองคือต้นกำเนิดของคำว่า “โรตี” และความหมายของมันก็ตรงไปตรงมา คือ “ขนมปัง”

คำว่า “rotikā” ไม่ได้หมายถึงขนมปังชนิดใดชนิดหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เป็นคำเรียกขนมปังหรือแผ่นแป้งที่ทำจากธัญพืช โดยเฉพาะแป้งโฮลวีทแบบหยาบหรือที่เรียกว่า “อัตตา” ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการทำโรตีดั้งเดิม สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมการกินของผู้คนในสมัยก่อน ที่เน้นการใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบที่มีอยู่ และแปรรูปให้เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ

การเดินทางของคำว่า “rotikā” สู่การเป็น “โรตี” ในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการแพร่กระจายของวัฒนธรรมอาหาร จากอนุทวีปอินเดียสู่ทั่วทุกมุมโลก ตลอดเส้นทาง การดัดแปลงและปรับเปลี่ยนวิธีการทำโรตีก็เกิดขึ้น จนมีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่โรตีแบบบางกรอบ โรตีแบบหนานุ่ม โรตีใส่ไข่ หรือแม้แต่โรตีที่ผสมผสานกับวัตถุดิบและเครื่องปรุงของแต่ละภูมิภาค แต่ไม่ว่าจะปรุงอย่างไร แก่นแท้ของมันคือ “ขนมปัง” ตามความหมายดั้งเดิมในภาษาสันสกฤต ยังคงอยู่

ดังนั้น การเรียกอาหารจานโปรดของใครหลายๆ คนว่า “โรตี” จึงไม่ได้เป็นเพียงการเรียกชื่ออาหารธรรมดา แต่เป็นการสืบสานและถ่ายทอดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการเดินทางอันยาวนานของอาหารชนิดนี้ ผ่านรากศัพท์ที่งดงามและความหมายที่เรียบง่าย แต่ทรงคุณค่า นั่นคือ “ขนมปัง” นั่นเอง