น้ำตาลสูง 160 อันตรายไหม

5 การดู

รักษาสุขภาพด้วยการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ แม้ค่าน้ำตาลปกติจะอยู่ที่ 70-100 มก./ดล. แต่การตรวจพบค่าเกิน 100 มก./ดล. บ่งชี้ความเสี่ยงเบาหวาน ปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและวางแผนดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม ยิ่งใส่ใจเร็วยิ่งลดความเสี่ยง.

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ค่าน้ำตาลสูง 160 อันตรายแค่ไหน? เตรียมรับมือภัยเงียบก่อนสายเกินไป

ทุกวันนี้ คนส่วนใหญ่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องระดับน้ำตาลในเลือด เพราะทุกคนรู้ดีว่าน้ำตาลสูงเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน ซึ่งอาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อนร้ายแรงมากมาย แต่รู้หรือไม่ว่าค่า 160 มก./ดล. นั้นถือเป็นระดับอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม?

ตามหลักการทั่วไป ค่าน้ำตาลในเลือดปกติจะอยู่ที่ 70-100 มก./ดล. แต่เมื่อค่าเกิน 100 มก./ดล. หมายความว่าร่างกายกำลังส่งสัญญาณเตือนภัยถึงความเสี่ยงเบาหวาน โดยเฉพาะเมื่อเกิน 160 มก./ดล. นับเป็นระดับที่อันตรายอย่างยิ่ง

ภัยเงียบของน้ำตาลสูง 160 มก./ดล.

ระดับน้ำตาล 160 มก./ดล. เป็นสัญญาณเตือนภัยถึงความเสี่ยงของโรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น

  • โรคหัวใจและหลอดเลือด: น้ำตาลในเลือดสูงทำให้อาการของโรคหัวใจเลวร้ายลง เช่น หลอดเลือดอุดตัน หัวใจวาย ฯลฯ
  • โรคไต: น้ำตาลสูงทำลายไต จนต้องล้างไตหรือปลูกถ่ายไตในที่สุด
  • โรคตา: เกิดขึ้นได้กับผู้ป่วยเบาหวาน เช่น เบาหวานขึ้นตา เรตินาถูกทำลาย ตาบอด
  • โรคระบบประสาท: เกิดแผลเรื้อรัง ชา ไม่มีแรง
  • แผลเรื้อรัง: แผลหายช้า มีโอกาสติดเชื้อสูง

ไม่ควรมองข้าม! สัญญาณเตือนภัย

  • ปัสสาวะบ่อย: เกิดจากร่างกายพยายามขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ
  • กระหายน้ำ: เป็นผลจากการที่ร่างกายสูญเสียน้ำมาก
  • เหนื่อยล้า: ร่างกายขาดพลังงาน
  • น้ำหนักลด: ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลเป็นพลังงานมากขึ้น
  • มองเห็นไม่ชัด: น้ำตาลสูงส่งผลต่อเลนส์ตา
  • ชาที่ปลายมือปลายเท้า: เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท

การดูแลสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยง

หากพบค่าน้ำตาลในเลือด 160 มก./ดล. อย่าเพิ่งตกใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม อาจต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น

  • ปรับเปลี่ยนอาหาร: เน้นอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล
  • ลดน้ำหนัก: ถ้ามีน้ำหนักเกิน
  • รับประทานยา: ตามแพทย์สั่ง

สรุป

น้ำตาลสูง 160 มก./ดล. เป็นระดับที่อันตราย อย่ามองข้าม เพราะอาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อนร้ายแรง การตรวจเช็คสุขภาพเป็นประจำ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และปรึกษาแพทย์ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพ และป้องกันความเสี่ยงจากน้ำตาลสูง

อย่าลืม! ดูแลตัวเอง ก่อนสายเกินไป!