น้ําพริกกะปิ ปลาทู กี่แคล
น้ำพริกกะปิปลาทู หนึ่งมื้อให้พลังงานประมาณ 280 กิโลแคลอรี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ให้โปรตีนสูงถึง 19.8 กรัม ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ มีไขมัน 9.8 กรัม ซึ่งได้จากส่วนประกอบต่างๆ เช่น กะปิและกุ้งแห้งป่น เป็นเมนูอร่อยที่ให้คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน
น้ำพริกกะปิปลาทู: ปริมาณแคลอรี่และคุณค่าทางโภชนาการ
น้ำพริกกะปิปลาทูเป็นอาหารไทยยอดนิยมที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติและความเผ็ดร้อนอันเป็นเอกลักษณ์ อาหารจานนี้ปรุงจากส่วนผสมหลัก ได้แก่ กะปิ ปลาทู และพริก โดยมักเสิร์ฟคู่กับผักสดหรือข้าวสวย
ปริมาณแคลอรี่
น้ำพริกกะปิปลาทูหนึ่งมื้อ (ประมาณ 100 กรัม) ให้พลังงานประมาณ 280 กิโลแคลอรี ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับอาหารประเภทอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ปริมาณแคลอรี่นี้สามารถลดลงได้โดยการลดปริมาณน้ำมันหรือกะทิที่ใช้ในการปรุง
คุณค่าทางโภชนาการ
นอกจากปริมาณแคลอรี่แล้ว น้ำพริกกะปิปลาทูยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการต่างๆ ได้แก่:
- โปรตีน: น้ำพริกกะปิปลาทูมีโปรตีนสูงถึง 19.8 กรัมต่อมื้อ ซึ่งช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยให้รู้สึกอิ่มและพึงพอใจ
- ไขมัน: น้ำพริกกะปิปลาทูมีไขมันทั้งหมด 9.8 กรัมต่อมื้อ ซึ่งส่วนใหญ่มากจากส่วนผสมต่างๆ เช่น กะปิและกุ้งแห้งป่น ไขมันเหล่านี้มีส่วนช่วยในการดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน และยังช่วยให้รู้สึกอิ่มด้วย
- คาร์โบไฮเดรต: น้ำพริกกะปิปลาทูมีคาร์โบไฮเดรตประมาณ 25 กรัมต่อมื้อ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรูปของน้ำตาลจากส่วนผสมต่างๆ เช่น น้ำตาลปี๊บและน้ำมะขามเปียก
- วิตามินและแร่ธาตุ: น้ำพริกกะปิปลาทูอุดมไปด้วยวิตามินต่างๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี รวมถึงแร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียม เหล็ก และโพแทสเซียม
เหมาะสำหรับการควบคุมน้ำหนักหรือไม่
แม้ว่าน้ำพริกกะปิปลาทูจะมีปริมาณแคลอรี่ค่อนข้างสูง แต่ก็สามารถรับประทานได้ในปริมาณที่พอเหมาะโดยผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากน้ำพริกกะปิปลาทูมีโปรตีนสูง ซึ่งช่วยให้รู้สึกอิ่มและช่วยลดความอยากอาหาร นอกจากนี้ น้ำพริกกะปิปลาทูยังมีไขมันดีจากส่วนผสมต่างๆ เช่น กะปิและกุ้งแห้งป่น ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำพริกกะปิปลาทูในปริมาณมากเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรืออ้วนได้
#น้ำพริกกะปิ#ปลาทู#แคลอรี่ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต