ปลาเก็บได้นานแค่ไหน

2 การดู

ปลาสดเก็บรักษาได้ไม่นาน โดยปกติจะเก็บได้ในช่องธรรมดาไม่เกิน 2 วัน หากต้องการเก็บรักษาไว้ได้นานขึ้น แนะนำให้แช่แข็ง โดยปลาเนื้อขาวไขมันต่ำสามารถแช่แข็งได้นานถึง 6 เดือน ส่วนปลาที่มีไขมันสูง เช่น แซลมอนจะเก็บได้ไม่เกิน 3 เดือน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

อายุยืนยาวในความเย็น: เคล็ดลับการยืดอายุให้ปลาสด

ปลาเป็นอาหารทะเลที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโปรตีน โอเมก้า 3 และวิตามินต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่ด้วยความเป็นอาหารสด ปลาจึงมีอายุการเก็บรักษาที่ค่อนข้างสั้น และการเก็บรักษาที่ไม่ถูกวิธีอาจนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพได้ ดังนั้น การรู้จักวิธีเก็บรักษาปลาอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการบริโภคปลา

ระยะเวลาความสด: เส้นตายที่ต้องรู้

ปลาสดที่ซื้อมาจากตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ตนั้น มีช่วงเวลาแห่งความสดใหม่ที่จำกัด หากเก็บไว้ในช่องธรรมดาของตู้เย็น โดยทั่วไปแล้วไม่ควรเกิน 1-2 วัน แม้ว่าภายนอกปลาจะยังดูดี แต่คุณภาพและรสชาติอาจเปลี่ยนแปลงไปแล้ว การบริโภคปลาที่ไม่สดอาจก่อให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้

การแช่แข็ง: ทางเลือกสำหรับการเก็บรักษาระยะยาว

หากต้องการเก็บรักษาปลาไว้นานกว่า 2 วัน การแช่แข็งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษารสชาติและคุณค่าทางอาหารของปลา แต่ระยะเวลาในการแช่แข็งที่เหมาะสมจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของปลา

  • ปลาเนื้อขาวไขมันต่ำ: ปลาชนิดนี้ เช่น ปลากะพง ปลาอินทรี หรือปลาจะละเม็ด สามารถแช่แข็งได้นานถึง 6 เดือน โดยที่รสชาติและเนื้อสัมผัสยังคงดีอยู่
  • ปลาที่มีไขมันสูง: ปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู หรือปลาซาบะ มีแนวโน้มที่จะเกิดการเหม็นหืนได้ง่ายกว่า ดังนั้นจึงควรแช่แข็งไม่เกิน 3 เดือน เพื่อรักษาคุณภาพให้ดีที่สุด

เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อการเก็บรักษาปลาอย่างมืออาชีพ

  • ทำความสะอาดทันที: เมื่อซื้อปลามาแล้ว ควรรีบล้างทำความสะอาดเอาเลือดและสิ่งสกปรกออกให้หมด เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย
  • ห่อให้มิดชิด: ก่อนนำปลาไปแช่แข็ง ควรห่อด้วยพลาสติกแรปหรือใส่ในถุงซิปล็อค โดยไล่อากาศออกให้มากที่สุด เพื่อป้องกันการเกิด Freezer Burn ซึ่งจะทำให้ปลาแห้งและเสียรสชาติ
  • แช่แข็งอย่างรวดเร็ว: การแช่แข็งปลาอย่างรวดเร็วจะช่วยรักษาสภาพของเซลล์ปลาได้ดีกว่า หากตู้เย็นมีฟังก์ชั่น Super Freeze หรือ Quick Freeze ควรใช้งานฟังก์ชั่นนี้
  • ละลายอย่างถูกวิธี: เมื่อต้องการนำปลามาปรุงอาหาร ควรละลายในตู้เย็นช่องธรรมดา หรือแช่ในน้ำเย็น การละลายในอุณหภูมิห้องอาจทำให้แบคทีเรียเติบโตได้
  • ไม่ควรแช่แข็งซ้ำ: ปลาที่ละลายแล้วไม่ควรนำกลับไปแช่แข็งซ้ำ เพราะจะทำให้คุณภาพและรสชาติของปลาแย่ลง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาหารเป็นพิษ

ข้อควรระวัง:

  • หากปลามีกลิ่นคาวรุนแรง หรือมีสีที่ผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยงการบริโภค
  • ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ สตรีมีครรภ์ และเด็ก ควรระมัดระวังในการบริโภคปลาดิบหรือปลาที่ไม่สด

การเก็บรักษาปลาอย่างถูกวิธีไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุของปลาเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าเราจะได้รับประทานปลาที่สดใหม่และมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ดังนั้น การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ จะช่วยให้เราสามารถเพลิดเพลินกับอาหารทะเลแสนอร่อยได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจยิ่งขึ้น