ปลาเค็มทำมาจากปลาอะไร

เหนือกว่าปลาทูและปลาสลิด: พาเหรดปลาหลากสายพันธุ์ที่กลายเป็น “ปลาเค็ม” อร่อย

ปลาเค็ม อาหารพื้นบ้านที่คุ้นเคยและปรากฏบนโต๊ะอาหารไทยมาช้านาน แม้จะดูเหมือนเรียบง่าย แต่เบื้องหลังความอร่อยนั้นซ่อนอยู่ความหลากหลายของวัตถุดิบ ไม่ใช่เพียงแค่ปลาทูและปลาสลิดที่เราคุ้นเคย แต่ยังมีปลาอีกหลายชนิดที่สามารถนำมาแปรรูปเป็นปลาเค็มได้ ความแตกต่างของชนิดปลาส่งผลต่อรสชาติและเนื้อสัมผัสที่หลากหลาย น่าค้นหาไม่น้อย

จากความเข้าใจทั่วไปที่ว่าปลาเค็มทำจากปลาทูและปลาสลิด เราควรขยายขอบเขตความรู้ให้กว้างขึ้น เพราะความจริงแล้ว การเลือกชนิดปลาขึ้นอยู่กับภูมิภาค ฤดูกาล และความนิยมของผู้บริโภค ตัวอย่างปลาที่นิยมนำมาทำปลาเค็ม ได้แก่:

• ปลาอินทรี: เนื้อแน่น รสชาติเข้มข้น ให้ความเค็มที่กลมกล่อม เป็นที่ชื่นชอบของหลายคน ปลาอินทรีเค็มมักมีขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการทำเมนูต่างๆ เช่น ยำปลาอินทรีเค็ม หรือทอดกระเทียม

• ปลาทู: ปลาเค็มยอดนิยม หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง เนื้อนุ่ม รสชาติไม่จัดจ้านมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรสชาติไม่แรง มักนำไปทอด หรือใช้ประกอบอาหารต่างๆ เช่น แกงส้ม หรือต้มจืด

• ปลาสลิด: มีลักษณะเฉพาะตัวคือตัวเล็ก แบน และมีกระดูกน้อย เนื้อนุ่ม รสชาติหวานอมเค็ม มักนำไปทอดกรอบ หรือใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารต่างๆ เช่น ยำ หรือผัด

• ปลากะตัก: ปลาตัวเล็ก เนื้อละเอียด รสชาติเค็มจัด มีกลิ่นเฉพาะตัว มักนำไปทำเป็นปลาเค็มดอง ใช้เป็นเครื่องปรุงรส หรือรับประทานเป็นอาหารว่าง

• ปลาไหล: มีเนื้อแน่น รสชาติเข้มข้น และมีกลิ่นเฉพาะตัว ปลาไหลเค็มมักมีราคาสูงกว่าชนิดอื่นๆ นิยมนำไปย่าง หรือใช้เป็นส่วนประกอบในเมนูอาหารหรูหรา

• ปลานิล: เนื้อแน่น รสชาติไม่จัดจ้านมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลาเค็มที่มีรสชาติอ่อนๆ มักนำไปทอดหรือย่าง

นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่ง ยังมีปลาอีกหลายชนิดที่สามารถนำมาทำปลาเค็มได้ ขึ้นอยู่กับภูมิภาคและความชื่นชอบ การทำปลาเค็มนั้น นอกจากจะช่วยถนอมอาหารให้เก็บได้นานแล้ว ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพยากรทางทะเล และเป็นการอนุรักษ์วิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชนชาวประมงอีกด้วย ดังนั้น ครั้งต่อไปที่คุณทานปลาเค็ม อย่าลืมนึกถึงความหลากหลายและความพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบ เพื่อให้ได้รสชาติอร่อยที่ลงตัว และเต็มเปี่ยมด้วยคุณค่าทางอาหารและวัฒนธรรม