วิธีดูวันหมดอายุ เรียงยังไง

ถอดรหัสวันหมดอายุ: รู้ทันก่อนเสียท่าอาหารหมดอายุ

อาหารเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิต แต่การรับประทานอาหารที่หมดอายุอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ การรู้จักวิธีดูวันหมดอายุอย่างถูกต้องจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการอ่านวันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์อย่างแม่นยำ เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของคุณ

เริ่มต้นด้วยการมองหาสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงวันหมดอายุ ซึ่งส่วนใหญ่มักใช้ตัวย่อว่า “EXP” หรือ “EXD” บางครั้งอาจพบเป็นคำเต็มว่า “Expiry Date” หรือ “Expiration Date” ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนหมายถึงวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์นั้นๆ

เมื่อพบสัญลักษณ์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการอ่านค่าวันที่ที่ระบุ สิ่งสำคัญที่ต้องระวังคือรูปแบบการเรียงลำดับวันที่ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศและแต่ละผลิตภัณฑ์ โดยทั่วไปมักพบ 2 รูปแบบหลัก คือ

• วัน/เดือน/ปี (DD/MM/YYYY): รูปแบบนี้เป็นที่นิยมใช้ในประเทศไทยและหลายประเทศในเอเชีย ตัวอย่างเช่น “15/03/2024” หมายถึงวันที่ 15 มีนาคม 2024
• ปี/เดือน/วัน (YYYY/MM/DD): รูปแบบนี้เป็นมาตรฐานสากลที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ตัวอย่างเช่น “2024/03/15” ก็หมายถึงวันที่ 15 มีนาคม 2024 เช่นกัน

ความคลาดเคลื่อนในการอ่านรูปแบบวันที่อาจทำให้เข้าใจผิดและบริโภคอาหารที่หมดอายุโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น จึงควรตรวจสอบรูปแบบวันที่ให้แน่ชัดทุกครั้งก่อนบริโภค โดยสังเกตจากตัวเลขที่มากที่สุดว่าอยู่ตำแหน่งใด หากเป็นเลขสี่หลัก แสดงว่าเป็นปี และหากเป็นเลขสองหลัก ควรพิจารณาบริบทประกอบ หรืออาจตรวจสอบรูปแบบวันที่จากส่วนประกอบอื่นๆ บนบรรจุภัณฑ์

นอกจากนี้ บางผลิตภัณฑ์อาจระบุวันหมดอายุควบคู่ไปกับข้อมูลอื่นๆ เช่น วันผลิต, รหัสล็อตการผลิต ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์ในการตรวจสอบย้อนกลับและควบคุมคุณภาพ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการยึดถือ “วันหมดอายุ (EXP/EXD)” เป็นหลักในการพิจารณาว่าอาหารนั้นยังปลอดภัยต่อการบริโภคหรือไม่

สุดท้าย หากอาหารเลยวันหมดอายุแล้ว แม้ว่าลักษณะภายนอกอาจดูเหมือนปกติ แต่เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคและทิ้งไป เพราะการรับประทานอาหารหมดอายุอาจเสี่ยงต่อการเกิดอาการอาหารเป็นพิษ ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพได้

การใส่ใจตรวจสอบวันหมดอายุเป็นเพียงก้าวเล็กๆ แต่ส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างมาก เริ่มต้นสร้างนิสัยที่ดีในการตรวจสอบวันหมดอายุทุกครั้งก่อนบริโภค เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและปลอดภัยของคุณ.