แกงเขียวหวานไม่ใส่กะทิได้ไหม
แกงเขียวหวานสูตรพิเศษ ไม่ใส่กะทิ ให้รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม และดีต่อสุขภาพ ด้วยส่วนผสมที่คัดสรรมาอย่างดีจากธรรมชาติ ลองแล้วจะติดใจ
แกงเขียวหวานมีสุขภาพดี: ความอร่อยแบบไม่ต้องกะทิ
แกงเขียวหวาน ถือเป็นหนึ่งในเมนูอาหารไทยที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก ด้วยรสชาติที่กลมกล่อม เข้มข้น และเครื่องแกงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่สำหรับผู้ที่รักสุขภาพหรือแพ้กะทิ อาจต้องหลีกเลี่ยงอาหารชนิดนี้ไปอย่างน่าเสียดาย
อย่างไรก็ตาม วันนี้เรามีสูตรเด็ดที่จะช่วยให้คุณอิ่มอร่อยกับแกงเขียวหวานได้อย่างไร้กังวล แม้จะไม่ใส่กะทิ ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติล้วนๆ ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี รับรองได้เลยว่ารสชาติจะอร่อยเข้มข้นไม่แพ้สูตรดั้งเดิมแน่นอน
ส่วนผสม
- พริกแกงเขียวหวาน (ไม่ผสมกะทิ) 1 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อไก่หรือเนื้อหมูหั่นชิ้นพอคำ 1/2 กิโลกรัม
- มะเขือเปราะหั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย
- พริกชี้ฟ้าเขียวหั่นแฉลบ 5-6 เม็ด
- ใบโหระพา 1/2 ถ้วย
- น้ำเปล่า 2 ถ้วย
- น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 1/4 ถ้วย
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
- ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอร้อนแล้วนำพริกแกงลงไปผัดให้หอม
- ตามด้วยเนื้อไก่หรือเนื้อหมู ผัดจนเริ่มสุก
- เติมน้ำเปล่าและน้ำมะขามเปียกลงไป เคี่ยวต่อจนเดือด
- ใส่พริกชี้ฟ้าเขียวและมะเขือเปราะลงไป
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและเกลือ คนให้เข้ากัน
- ผัดต่อจนผักสุกและน้ำแกงงวดลงเล็กน้อย
- ใส่ใบโหระพา คนให้ทั่ว แล้วปิดไฟ
เพียงเท่านี้คุณก็จะได้แกงเขียวหวานรสชาติกลมกล่อมเข้มข้น โดยไม่ต้องใช้กะทิเลย ไม่เพียงแค่ความอร่อยเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการจากผักและเครื่องเทศต่างๆ อีกด้วย
เคล็ดลับ
- หากไม่มีพริกแกงเขียวหวานที่ไม่ผสมกะทิ สามารถใช้พริกแกงเขียวหวานธรรมดาได้ แล้วนำไปผัดกับน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันรำข้าวแทน
- สามารถเพิ่มผักอื่นๆ ลงไปได้ตามต้องการ เช่น ถั่วฝักยาว เห็ดฟาง หรือหน่อไม้
- ถ้าต้องการให้แกงเขียวหวานมีรสชาติเผ็ดมากขึ้น สามารถเพิ่มปริมาณพริกชี้ฟ้าเขียวหรือใส่พริกขี้หนูลงไปได้
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต