ไมเกรนงดกินอะไร

1 การดู

ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมันสูง เช่น อาหารทอดและของทอดกรอบ รวมถึงอาหารหมักดองอย่างกะปิและปลาร้า ซึ่งอาจกระตุ้นอาการไมเกรน นอกจากนี้ ควรจำกัดการบริโภคอาหารรสจัดและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพื่อลดโอกาสการกำเริบของอาการปวดศีรษะรุนแรง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

พิชิตไมเกรน: ปรับอาหาร ลดปัจจัยกระตุ้น

อาการปวดศีรษะไมเกรนไม่ใช่แค่ความรู้สึกไม่สบายธรรมดา แต่เป็นอาการปวดที่รุนแรง สามารถบั่นทอนคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้ การรักษาไมเกรนมีหลายวิธี ทั้งการใช้ยาและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มักถูกมองข้ามคือ อาหาร

หลายคนอาจไม่ทราบว่าอาหารบางชนิดสามารถเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการไมเกรนได้ การรู้จักและหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้จึงเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมอาการปวดศีรษะให้ดีขึ้น

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเป็นไมเกรน:

  • อาหารไขมันสูง: อาหารทอด ของทอดกรอบ อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง มักเป็นภาระหนักต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักขึ้น และอาจนำไปสู่การกระตุ้นอาการไมเกรนได้
  • อาหารหมักดอง: กะปิ ปลาร้า น้ำปลา และอาหารหมักดองอื่นๆ มักมีสารไทรามีน (Tyramine) ซึ่งเป็นสารที่สามารถกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัวและทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้
  • อาหารรสจัด: อาหารที่มีรสชาติเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด หรือเค็มจัด สามารถส่งผลต่อระบบประสาทและหลอดเลือด ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่อาจนำไปสู่อาการไมเกรนได้
  • เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน: กาแฟ ชา น้ำอัดลม และเครื่องดื่มชูกำลัง แม้ว่าคาเฟอีนอาจช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะได้บ้างในบางครั้ง แต่การบริโภคมากเกินไป หรือการหยุดบริโภคคาเฟอีนอย่างกะทันหัน ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการไมเกรนได้เช่นกัน

ทำไมอาหารเหล่านี้ถึงกระตุ้นไมเกรน?

กลไกการกระตุ้นอาการไมเกรนจากอาหารเหล่านี้ยังไม่เป็นที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ แต่มีทฤษฎีที่เชื่อว่าอาหารบางชนิดอาจส่งผลต่อ:

  • สารสื่อประสาท: อาหารบางชนิดอาจส่งผลต่อระดับสารสื่อประสาทในสมอง เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์และความเจ็บปวด
  • การขยายและหดตัวของหลอดเลือด: สารบางชนิดในอาหาร เช่น ไทรามีน สามารถทำให้หลอดเลือดในสมองขยายตัวและหดตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการปวดศีรษะ
  • การอักเสบ: อาหารบางชนิดอาจกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบประสาทและทำให้เกิดอาการไมเกรน

เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อควบคุมไมเกรนผ่านอาหาร:

  • จดบันทึกอาหาร: ลองจดบันทึกอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน พร้อมทั้งบันทึกอาการไมเกรนที่เกิดขึ้น เพื่อช่วยให้คุณระบุอาหารที่อาจเป็นตัวกระตุ้นได้ง่ายขึ้น
  • รับประทานอาหารให้ตรงเวลา: การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา หรือการอดอาหาร สามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดอาการไมเกรนได้
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ภาวะขาดน้ำสามารถทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ การดื่มน้ำให้เพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญ
  • ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ: หากคุณไม่แน่ใจว่าควรหลีกเลี่ยงอาหารชนิดใด หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนอาหารเพื่อควบคุมไมเกรน ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดูแลรักษาไมเกรน การใช้ยา การพักผ่อนให้เพียงพอ การจัดการความเครียด และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมอาการไมเกรนและกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้