1 วันควรกินผลไม้เท่าไร

วันละกี่ผลไม้จึงพอดี? มากกว่าปริมาณ คือความหลากหลาย

คำถามที่ว่า “วันหนึ่งควรกินผลไม้กี่ลูก?” มักได้รับคำตอบที่คลุมเครือ เช่น “สองส่วน” แต่คำตอบที่แท้จริงนั้นซับซ้อนกว่านั้นมาก เพราะไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่จำนวนชิ้น แต่รวมถึง ชนิด และ ความหลากหลาย ของผลไม้ที่เราบริโภคด้วย

คำแนะนำทั่วไปของกระทรวงสาธารณสุขหลายประเทศ มักจะเน้นให้รับประทานผลไม้และผักอย่างน้อย 5 ส่วนต่อวัน ซึ่ง “หนึ่งส่วน” นั้นไม่ได้หมายถึงผลไม้หนึ่งลูกเสมอไป แต่หมายถึงปริมาณผลไม้ที่เท่ากับประมาณ 1 ลูกเล็กๆ เช่น ลูกพลัม, ลูกเกด หรือ 1/2 ลูกขนาดกลาง เช่น แอปเปิ้ล, กล้วย หรือ 1 ถ้วยผลไม้หั่น เช่น แตงโม, สับปะรด การคำนวณปริมาณที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับขนาดและชนิดของผลไม้แต่ละชนิด

ดังนั้น การกินผลไม้ “อย่างน้อย 2 ส่วนต่อวัน” ตามที่กล่าวไว้ จึงเป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้น ซึ่งควรปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาประกอบด้วย:

• อายุและเพศ: เด็กเล็กต้องการปริมาณผลไม้น้อยกว่าผู้ใหญ่ และความต้องการของผู้ชายและผู้หญิงอาจแตกต่างกันเล็กน้อย
• ระดับกิจกรรม: ผู้ที่มีกิจกรรมร่างกายสูงอาจต้องการผลไม้มากกว่าผู้ที่นั่งทำงานเป็นส่วนใหญ่
• สภาพร่างกาย: ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน อาจต้องควบคุมปริมาณน้ำตาลจากผลไม้ให้เหมาะสม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ
• การรับประทานอาหารอื่นๆ: หากรับประทานอาหารที่มีผักและผลไม้หลากหลายอยู่แล้ว ปริมาณผลไม้ที่ต้องการอาจลดลง

มากกว่าปริมาณ คือ ความหลากหลาย ของผลไม้ การรับประทานผลไม้หลากสีสัน เช่น ผลไม้สีแดง (เช่น สตรอว์เบอร์รี, เชอร์รี่) สีเหลือง/ส้ม (เช่น ส้ม, มะละกอ) สีเขียว (เช่น แตงโม, แอปเปิ้ลเขียว) และสีม่วง/น้ำเงิน (เช่น องุ่นดำ, บลูเบอร์รี่) จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการกินผลไม้ชนิดเดียวซ้ำๆ

สุดท้าย การเลือกผลไม้ตามฤดูกาลเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญ ทั้งช่วยให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด ราคาประหยัด และยังสนับสนุนเกษตรกรไทยอีกด้วย การกินผลไม้จึงไม่ใช่แค่การเพิ่มปริมาณ แต่เป็นการสร้างความสมดุลและความหลากหลายให้กับอาหารของเรา เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน