ยกเลิกประกันจะได้เงินคืนไหม

ยกเลิกประกัน…แล้วเงินฉันล่ะ? คืนไหม? เท่าไหร่?

การยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย อาจเกิดขึ้นได้ด้วยหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนไป ความต้องการความคุ้มครองที่แตกต่างออกไป หรือแม้แต่การเปลี่ยนใจหลังจากพิจารณาข้อเสนอจากบริษัทอื่น คำถามสำคัญที่ตามมาคือ หากยกเลิกกรมธรรม์แล้ว เราจะได้เงินคืนหรือไม่? และได้เท่าไหร่? คำตอบนั้นไม่ใช่แค่ “ได้” หรือ “ไม่ได้” แต่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะระยะเวลาที่ถือกรมธรรม์ และประเภทของกรมธรรม์นั้นๆ

ช่วงเวลาทอง 15 วันแรก:

หากคุณเพิ่งทำประกันไปไม่นาน และยังอยู่ในช่วงเวลา 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับกรมธรรม์ ถือว่าคุณยังอยู่ในช่วง “Free Look Period” ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กฎหมายกำหนดให้ผู้เอาประกันภัยสามารถพิจารณายกเลิกกรมธรรม์ได้ โดยจะได้รับเงินเบี้ยประกันคืนบางส่วน โดยจะมีการหักค่าใช้จ่ายบางอย่าง เช่น ค่าตรวจสุขภาพ (ถ้ามี) ค่าดำเนินการ และค่าความคุ้มครองในช่วง 15 วันนั้น ดังนั้น ถึงแม้จะอยู่ในช่วง Free Look Period ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้เงินคืนเต็มจำนวนที่จ่ายไป

เลย 15 วันไปแล้ว…มีอะไรบ้าง?

หากพ้นระยะเวลา 15 วันไปแล้ว การยกเลิกกรมธรรม์จะซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย โดยทั่วไปแล้ว คุณจะได้รับเงินคืนในรูปของ “มูลค่าเวนคืนกรมธรรม์” ซึ่งมูลค่านี้มักจะน้อยกว่าเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไปทั้งหมด โดยเฉพาะในช่วงปีแรกๆ ของการทำประกัน เนื่องจากบริษัทประกันได้หักค่าใช้จ่ายต่างๆ ไปแล้ว เช่น ค่าคอมมิชชั่น ค่าดำเนินการ และค่าใช้จ่ายในการจัดทำกรมธรรม์ ยิ่งยกเลิกกรมธรรม์เร็วเท่าไหร่ มูลค่าเวนคืนก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น ในบางกรณี หากกรมธรรม์มีอายุสั้นมาก มูลค่าเวนคืนอาจเป็นศูนย์

กรมธรรม์แต่ละประเภท…ไม่เหมือนกัน:

นอกจากระยะเวลาที่ถือกรมธรรม์แล้ว ประเภทของกรมธรรม์ก็มีผลต่อการคืนเงินเช่นกัน กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ จะมีมูลค่าเวนคืนที่สูงกว่ากรมธรรม์ประกันชีวิตแบบคุ้มครองรายปี เนื่องจากมีส่วนของการออมทรัพย์อยู่ในกรมธรรม์ด้วย ส่วนกรมธรรม์ประกันวินาศภัย เช่น ประกันภัยรถยนต์ หากยกเลิกก่อนครบกำหนดสัญญา ก็อาจได้รับเงินคืนบางส่วน โดยคิดตามสัดส่วนระยะเวลาที่เหลืออยู่ของกรมธรรม์

อย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไข!

ก่อนตัดสินใจยกเลิกกรมธรรม์ใดๆ ควรศึกษาเงื่อนไขและรายละเอียดในกรมธรรม์ให้ถี่ถ้วน หรือติดต่อสอบถามกับตัวแทนประกันภัย หรือบริษัทประกันโดยตรง เพื่อให้เข้าใจถึงผลประโยชน์และข้อเสียเปรียบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างรอบคอบ และไม่เสียผลประโยชน์ที่ควรจะได้รับ

การยกเลิกประกันภัยเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน อย่าลืมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และศึกษาข้อมูลให้เข้าใจอย่างชัดเจนก่อนตัดสินใจ เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับผลประโยชน์สูงสุด และไม่เกิดความเสียหายทางการเงินในภายหลัง