เครื่องชงกาแฟที่ดี ควร มี แรงดัน กี่ บาร์

แรงดันบาร์ในเครื่องชงกาแฟ: จำเป็นต้องซีเรียสขนาดนั้นไหม?

เรื่องแรงดันบาร์ในเครื่องชงกาแฟมักเป็นประเด็นที่สร้างความสับสนให้กับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องชงกาแฟเครื่องใหม่ หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าแรงดันบาร์สูงๆ เท่ากับกาแฟที่อร่อยกว่าเสมอ ความจริงแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น และอาจไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟของคุณเสียด้วยซ้ำ

เครื่องชงกาแฟแบบเอสเปรสโซส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นแบบใช้มือหมุนหรือแบบอัตโนมัติ จะมีแรงดันบาร์อยู่ที่ประมาณ 9 บาร์ ซึ่งเป็นแรงดันที่ถือว่าเหมาะสมและเพียงพอที่จะสกัดน้ำกาแฟจากเมล็ดกาแฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเพิ่มแรงดันบาร์เกิน 9 บาร์อาจไม่ส่งผลให้กาแฟอร่อยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่กลับอาจทำให้กาแฟมีรสขมหรือไหม้ได้ เนื่องจากการสกัดน้ำกาแฟที่รุนแรงเกินไป

ดังนั้น แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่ตัวเลขแรงดันบาร์เพียงอย่างเดียว เราควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อรสชาติของกาแฟมากยิ่งกว่า เช่น:

• คุณภาพของเมล็ดกาแฟ: เมล็ดกาแฟที่ดีมีคุณภาพ คั่วได้อย่างเหมาะสม และเก็บรักษาอย่างถูกวิธี เป็นพื้นฐานสำคัญของกาแฟรสชาติเยี่ยม ไม่ว่าเครื่องชงกาแฟของคุณจะมีแรงดันบาร์สูงแค่ไหน หากใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพต่ำ ก็ยากที่จะได้กาแฟที่อร่อย
• การบดเมล็ดกาแฟ: ความละเอียดของการบดเมล็ดกาแฟมีความสำคัญอย่างยิ่ง การบดที่ละเอียดเกินไปหรือหยาบเกินไปจะส่งผลต่อการสกัดน้ำกาแฟ ทำให้ได้รสชาติที่ไม่สมดุล
• อุณหภูมิของน้ำ: อุณหภูมิของน้ำที่ใช้ชงกาแฟควรอยู่ที่ประมาณ 90-96 องศาเซลเซียส อุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไปอาจทำให้รสชาติของกาแฟเปลี่ยนแปลงไป
• ความสดใหม่ของกาแฟ: กาแฟบดควรใช้ชงทันที เพราะกาแฟบดจะสูญเสียความหอมและรสชาติได้อย่างรวดเร็ว

สรุปแล้ว แรงดันบาร์เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ปัจจัยที่ส่งผลต่อรสชาติของกาแฟ การเลือกเครื่องชงกาแฟที่เหมาะสมควรพิจารณาจากฟังก์ชันการใช้งาน ความสะดวกในการใช้งาน งบประมาณ และความต้องการส่วนบุคคล มากกว่าการจ้องมองที่ตัวเลขแรงดันบาร์เพียงอย่างเดียว เริ่มต้นด้วยเครื่องชงกาแฟที่ใช้งานง่าย ค่อยๆ เรียนรู้ และค้นพบวิธีการชงกาแฟที่ถูกใจของคุณเอง นั่นแหละคือกุญแจสำคัญสู่โลกแห่งกาแฟที่แสนอร่อย!