แขม่วพุงบ่อยๆดีไหม

แขม่วพุงบ่อยๆ ดีต่อสุขภาพจริงหรือ? ไขข้อข้องใจที่คุณควรรู้

การแขม่วพุง เป็นหนึ่งในท่าบริหารที่หลายคนคุ้นเคยและมักถูกมองว่าเป็นวิธีง่ายๆ ในการลดหน้าท้อง หรือกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อหน้าท้องให้กระชับ แต่คำถามคือ การแขม่วพุงบ่อยๆ นั้น ดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่? และมีข้อควรระวังอะไรบ้างที่เราควรรู้?

แขม่วพุง: ประโยชน์ที่ซ่อนอยู่

อย่างที่ทราบกันดีว่าการแขม่วพุง เป็นการเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core Muscles) ซึ่งเป็นกลุ่มกล้ามเนื้อที่สำคัญในการพยุงกระดูกสันหลัง ช่วยให้เราทรงตัวได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการปวดหลัง และช่วยให้การเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ การแขม่วพุงยังช่วย:

• กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต: การเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นระยะๆ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในบริเวณช่องท้อง ซึ่งเป็นผลดีต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย
• ปรับปรุงท่าทาง: การฝึกแขม่วพุงอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้เราตระหนักถึงท่าทางที่ถูกต้องและปรับปรุงบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้น
• บรรเทาอาการท้องผูก: ในบางกรณี การแขม่วพุงอย่างถูกวิธี อาจช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้และบรรเทาอาการท้องผูกได้

ข้อควรระวัง: แขม่วพุงมากเกินไปอาจไม่ดีอย่างที่คิด

แม้ว่าการแขม่วพุงจะมีประโยชน์หลายประการ แต่การทำบ่อยเกินไป หรือทำค้างไว้นานเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน

• รบกวนระบบทางเดินอาหาร: การแขม่วพุงค้างไว้นานๆ อาจทำให้การบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้เป็นไปได้ยากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรืออาหารไม่ย่อยได้
• จำกัดการหายใจ: การเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องมากเกินไป อาจทำให้การหายใจเป็นไปอย่างไม่เต็มที่ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ซึ่งอาจนำไปสู่อาการเหนื่อยล้า หรือเวียนศีรษะได้
• เพิ่มความตึงเครียดในกล้ามเนื้อ: การแขม่วพุงตลอดเวลา อาจทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องเกิดความตึงเครียดเรื้อรัง และส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้ออื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง เช่น กล้ามเนื้อหลัง หรือกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
• อาจไม่ได้ผลในการลดหน้าท้อง: การแขม่วพุงเพียงอย่างเดียว อาจไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อการลดไขมันหน้าท้อง การลดน้ำหนักและลดไขมันหน้าท้อง จำเป็นต้องอาศัยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอควบคู่ไปด้วย

แขม่วพุงอย่างไรให้ถูกต้องและปลอดภัย

เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการแขม่วพุง และหลีกเลี่ยงผลเสียที่อาจเกิดขึ้น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:

1. หายใจให้ถูกต้อง: ก่อนแขม่วพุง ให้หายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกพร้อมกับแขม่วพุง โดยดึงสะดือเข้าหาหลังเบาๆ
2. แขม่วพุงพอประมาณ: ไม่ควรแขม่วพุงค้างไว้นานเกินไป หรือเกร็งกล้ามเนื้อมากเกินไป ควรทำเป็นเซ็ตๆ ละ 10-15 ครั้ง พักระหว่างเซ็ต และทำซ้ำ 2-3 เซ็ต
3. ฟังร่างกายตัวเอง: หากรู้สึกเจ็บปวด หรือไม่สบายตัวขณะแขม่วพุง ควรหยุดพักทันที และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากจำเป็น
4. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณมีโรคประจำตัว หรือไม่แน่ใจว่าจะแขม่วพุงอย่างไรให้ถูกต้อง ควรปรึกษาแพทย์ นักกายภาพบำบัด หรือผู้ฝึกสอนที่มีความรู้ความเข้าใจ เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสม

สรุป

การแขม่วพุงเป็นครั้งคราวควบคู่กับการหายใจที่ถูกต้อง สามารถช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อหน้าท้องและเสริมสร้างแกนกลางลำตัวให้แข็งแรงได้ แต่ไม่ควรทำค้างไว้นานเกินไป หรือทำอย่างหักโหม เพราะอาจส่งผลเสียต่อระบบทางเดินอาหารและการหายใจ สิ่งสำคัญคือการทำอย่างถูกวิธี และฟังร่างกายตัวเอง หากคุณมีข้อสงสัย หรือกังวลใจ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม