กล้องปริทรรศน์หรือกล้องเพอริสโคปมีกระจกชนิดใดเป็นส่วนประกอบ
กล้องปริทรรศน์ใช้ประโยชน์จากการสะท้อนแสงของกระจกเงาราบสองบานที่วางขนานกัน โดยแต่ละบานทำมุม 45 องศากับตัวกล้อง เพื่อปรับทิศทางของแสงให้ผู้สังเกตสามารถมองเห็นภาพจากมุมที่แตกต่างได้ เช่น จากใต้น้ำหรือจากที่กำบัง
เบื้องหลังการมองเห็นเหนือขอบฟ้า: กระจกเงาราบกับกลไกของกล้องปริทรรศน์
กล้องปริทรรศน์ หรือกล้องเพอริสโคป เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่นอกเหนือสายตาปกติได้ ไม่ว่าจะเป็นการมองเหนือสิ่งกีดขวาง หรือแม้แต่การมองจากใต้น้ำขึ้นสู่ผิวโลก เบื้องหลังความสามารถอันน่าทึ่งนี้ คือหลักการทางฟิสิกส์ง่ายๆ ที่ใช้ประโยชน์จากการสะท้อนแสงของ กระจกเงาราบ
ภายในกล้องปริทรรศน์ เราจะพบกระจกเงาราบอย่างน้อยสองบานวางขนานกันในแนวตั้ง โดยแต่ละบานจะทำมุม 45 องศากับแกนกลางของตัวกล้อง การจัดวางเช่นนี้มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนทิศทางของแสง
เมื่อแสงจากวัตถุตกกระทบลงบนกระจกบานแรก มุมตกกระทบจะเท่ากับมุมสะท้อน แสงจึงถูกสะท้อนลงมาเป็นมุม 90 องศา แสงที่สะท้อนแล้วจะเดินทางไปยังกระจกบานที่สอง ซึ่งวางทำมุม 45 องศาเช่นเดียวกัน กระจกบานที่สองนี้จะสะท้อนแสงอีกครั้ง ทำให้แสงเดินทางเป็นมุมฉากกับทิศทางเดิม ส่งผลให้ภาพของวัตถุถูกส่งตรงมายังดวงตาของผู้สังเกต
แม้ว่าหลักการพื้นฐานของกล้องปริทรรศน์จะใช้กระจกเงาราบเพียงสองบาน แต่ในกล้องปริทรรศน์ที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่นที่ใช้ในเรือดำน้ำ อาจมีการใช้เลนส์ปริซึมและระบบออปติคอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ขยายภาพ และปรับระยะโฟกัส อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญของกลไกการทำงานยังคงอยู่ที่การสะท้อนแสงของ กระจกเงาราบ สองบานที่วางทำมุม 45 องศา ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานที่ทำให้กล้องปริทรรศน์สามารถนำภาพจากโลกภายนอกมาสู่สายตาของเราได้อย่างน่าอัศจรรย์
#กระจกเงา#กล้อง#เลนส์ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต