การอัปเดต iOS จําเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตหรือไม่

3 การดู

การอัปเดต iOS ผ่านเครือข่ายมือถือจำเป็นต้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เสถียรและแบตเตอรี่เหลืออย่างน้อย 50% ก่อนเริ่มการอัปเดต โปรดตรวจสอบปริมาณข้อมูลที่ใช้ เพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายเกิน แนะนำให้เชื่อมต่อ Wi-Fi หากเป็นไปได้ สำหรับความเร็วและประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการอัปเดต

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

อัปเดต iOS: ต้องใช้อินเทอร์เน็ตไหม? แล้วควรใช้วิธีไหนถึงจะดีที่สุด?

คำถามที่ผู้ใช้ iPhone และ iPad หลายคนสงสัย คือ การอัปเดต iOS จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตหรือไม่? คำตอบคือ ใช่ อย่างแน่นอน การอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชันเล็กหรือใหญ่ ต้องอาศัยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อดาวน์โหลดไฟล์อัปเดตขนาดใหญ่ ซึ่งมีขนาดแตกต่างกันไปในแต่ละเวอร์ชัน บางครั้งอาจสูงถึงหลายกิโลไบต์ หรือแม้แต่หลายกิ๊กไบต์

แม้ว่าจะจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ต แต่เราก็มีทางเลือกในการเชื่อมต่อได้สองวิธีหลักๆ คือ การใช้เครือข่าย Wi-Fi และการใช้เครือข่ายมือถือ (Mobile Data)

การใช้ Wi-Fi: ทางเลือกที่แนะนำ

การเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi เป็นวิธีที่แนะนำอย่างยิ่ง เพราะมีข้อดีหลายประการ:

  • ความเร็วสูง: Wi-Fi มักจะมีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงกว่าเครือข่ายมือถืออย่างเห็นได้ชัด ทำให้การอัปเดตเสร็จสิ้นได้เร็วขึ้น ประหยัดเวลา และลดโอกาสที่การอัปเดตจะขัดข้องกลางคันเนื่องจากสัญญาณไม่เสถียร
  • ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม: การใช้ Wi-Fi ที่บ้านหรือที่ทำงานส่วนใหญ่จะไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ต่างจากการใช้เครือข่ายมือถือที่อาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายสูงได้หากใช้ปริมาณข้อมูลมาก
  • ความเสถียรสูง: สัญญาณ Wi-Fi ในพื้นที่ที่มีการติดตั้งอย่างดีมักจะมีความเสถียรมากกว่าสัญญาณมือถือ ทำให้การอัปเดตเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาด

การใช้เครือข่ายมือถือ: ทางเลือกที่จำเป็นเมื่อไม่มี Wi-Fi

หากคุณไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการใช้เครือข่ายมือถือ ก็สามารถทำได้ แต่ควรระมัดระวังในหลายๆ ด้าน:

  • สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เสถียร: จำเป็นต้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เสถียรและแรงพอ การอัปเดตผ่านเครือข่ายมือถือที่สัญญาณอ่อนหรือไม่เสถียรอาจทำให้การอัปเดตขัดข้อง หรือดาวน์โหลดไม่สำเร็จ
  • แบตเตอรี่เหลือเพียงพอ: การอัปเดต iOS ใช้พลังงานแบตเตอรี่ค่อนข้างมาก ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่เหลืออย่างน้อย 50% หรือมากกว่า และควรเสียบปลั๊กชาร์จไว้ระหว่างอัปเดตเพื่อป้องกันการปิดเครื่องกะทันหัน
  • ตรวจสอบปริมาณข้อมูล: การอัปเดต iOS อาจใช้ปริมาณข้อมูลสูงมาก ควรตรวจสอบปริมาณข้อมูลที่เหลืออยู่บนแพ็กเกจของคุณ และพิจารณาใช้ Wi-Fi แทนหากเหลือข้อมูลไม่เพียงพอ เพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายเกินจากการใช้ข้อมูล

สรุปแล้ว การอัปเดต iOS ต้องใช้อินเทอร์เน็ตเสมอ และการใช้ Wi-Fi เป็นวิธีที่แนะนำอย่างยิ่ง เพราะมีความเร็วและความเสถียรสูงกว่า ช่วยให้การอัปเดตราบรื่นและประหยัดเวลา แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้เครือข่ายมือถือ ก็ควรตรวจสอบสัญญาณ แบตเตอรี่ และปริมาณข้อมูลให้ดีก่อนเริ่มการอัปเดต เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ และอย่าลืมสำรองข้อมูลสำคัญของคุณก่อนเริ่มกระบวนการอัพเดทด้วยเสมอ เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลของคุณ