การแปลงไฟล์ PDF เป็น Word ทำยังไง

6 การดู

แปลง PDF เป็น Word ได้ง่ายๆ ด้วยขั้นตอนดังนี้:

  • เปิดไฟล์ PDF ใน Adobe Acrobat
  • เลือก ไฟล์ > ส่งออกไปยัง > Word
  • บันทึกไฟล์ Word ที่แปลงแล้ว
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

พลิกโฉมเอกสาร PDF ให้เป็น Word: มากกว่าแค่ “เปิด-ส่งออก-บันทึก”

หลายครั้งที่เราได้รับไฟล์ PDF ที่ต้องการแก้ไข ปรับปรุง หรือนำข้อมูลไปใช้งานต่อ แต่ไฟล์ PDF นั้นขึ้นชื่อในเรื่องความยืดหยุ่นน้อย ทำให้การแก้ไขโดยตรงเป็นเรื่องยาก การแปลงไฟล์ PDF ให้เป็น Word จึงเป็นทางออกที่ได้รับความนิยม ด้วยความสามารถในการแก้ไขได้อย่างอิสระ การปรับรูปแบบให้ตรงตามความต้องการ และการคัดลอกข้อมูลไปใช้ในเอกสารอื่นได้อย่างง่ายดาย

บทความนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ขั้นตอน “เปิด-ส่งออก-บันทึก” ที่คุ้นเคย แต่จะเจาะลึกถึงเคล็ดลับและทางเลือกต่างๆ ในการแปลงไฟล์ PDF เป็น Word เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับความต้องการของคุณ

ทำไมต้องแปลง PDF เป็น Word?

  • แก้ไขได้อย่างอิสระ: Word ช่วยให้คุณแก้ไขข้อความ เปลี่ยนรูปแบบ เพิ่มรูปภาพ หรือจัดหน้าใหม่ได้อย่างง่ายดาย ต่างจาก PDF ที่มักจำกัดการแก้ไข
  • ปรับรูปแบบตามต้องการ: ปรับรูปแบบตัวอักษร ขนาด สีสัน ระยะขอบ และอื่นๆ เพื่อให้เอกสารตรงตามความต้องการของคุณ
  • คัดลอกข้อมูลไปใช้: คัดลอกข้อความ ตาราง หรือรูปภาพจากไฟล์ Word ไปใช้งานในเอกสารอื่นได้อย่างสะดวก
  • ทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น: แชร์ไฟล์ Word ให้เพื่อนร่วมงานแก้ไขและปรับปรุงได้อย่างง่ายดาย

มากกว่า Adobe Acrobat: ทางเลือกอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แม้ว่า Adobe Acrobat จะเป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมในการจัดการไฟล์ PDF แต่ก็มีทางเลือกอื่นๆ ที่น่าสนใจและอาจเหมาะสมกับความต้องการของคุณมากกว่า:

  • Online PDF Converters: เว็บไซต์แปลงไฟล์ PDF ออนไลน์มากมาย เช่น Smallpdf, iLovePDF, หรือ PDF2Word ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว และส่วนใหญ่ให้บริการฟรี (อาจมีข้อจำกัดในเรื่องขนาดไฟล์หรือจำนวนครั้งในการแปลง)
  • Microsoft Word: หากคุณมี Microsoft Word อยู่แล้ว คุณสามารถเปิดไฟล์ PDF โดยตรงใน Word ซึ่งจะแปลงไฟล์ให้โดยอัตโนมัติ
  • โปรแกรมจัดการ PDF อื่นๆ: มีโปรแกรมจัดการ PDF อีกมากมายที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการแปลงไฟล์ PDF เป็น Word เช่น Nitro PDF หรือ Wondershare PDFelement

เคล็ดลับเพื่อการแปลง PDF ที่สมบูรณ์แบบ:

  • เลือกเครื่องมือที่เหมาะสม: พิจารณาความซับซ้อนของไฟล์ PDF และความต้องการในการแก้ไขของคุณ เพื่อเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมที่สุด
  • ตรวจสอบผลลัพธ์หลังการแปลง: ตรวจสอบว่าข้อความ รูปภาพ และรูปแบบต่างๆ ถูกแปลงมาอย่างถูกต้องหรือไม่ หากพบข้อผิดพลาด ให้แก้ไขใน Word
  • ระวังเรื่องภาษา: หากไฟล์ PDF เป็นภาษาที่ซับซ้อน (เช่น ภาษาไทย) การแปลงอาจไม่สมบูรณ์แบบ คุณอาจต้องแก้ไขข้อความที่ผิดเพี้ยน
  • พิจารณา OCR: หากไฟล์ PDF เป็นภาพสแกน อาจต้องใช้เทคโนโลยี OCR (Optical Character Recognition) เพื่อแปลงภาพเป็นข้อความที่แก้ไขได้
  • สำรองไฟล์ PDF ต้นฉบับ: ก่อนแปลงไฟล์ ควรสำรองไฟล์ PDF ต้นฉบับไว้เสมอ เผื่อกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดระหว่างการแปลง

สรุป:

การแปลงไฟล์ PDF เป็น Word เป็นกระบวนการที่ง่ายและสะดวกสบาย ด้วยเครื่องมือและเคล็ดลับที่นำเสนอในบทความนี้ คุณจะสามารถแปลงไฟล์ PDF ให้เป็น Word ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแก้ไข ปรับปรุง หรือนำข้อมูลไปใช้งานต่อได้อย่างง่ายดาย อย่าลืมพิจารณาทางเลือกต่างๆ และเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด