คลื่นวิทยุ FM อยู่ในย่านความถี่ใด

2 การดู

คลื่นวิทยุ FM ครอบคลุมย่านความถี่ 87.5 ถึง 108 MHz ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการมอดูเลตความถี่ ส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูงด้วยการเปลี่ยนแปลงความถี่ของคลื่นพาหะตามความแรงของเสียง การรับส่งสัญญาณ FM อาศัยการสะท้อนของคลื่นจากชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ ทำให้คลื่นเดินทางได้ไกลขึ้นกว่าคลื่น AM แต่สัญญาณอาจถูกรบกวนจากสภาพอากาศ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เจาะลึกคลื่นวิทยุ FM: มากกว่าแค่เสียงเพลงที่คุณได้ยิน

คลื่นวิทยุ FM เป็นเพื่อนคู่ใจนักฟังเพลงและผู้ที่ติดตามข่าวสารมาอย่างยาวนาน แต่เคยสงสัยกันไหมว่าคลื่นเหล่านี้เดินทางมาถึงหูเราได้อย่างไร และอะไรทำให้ FM แตกต่างจากระบบวิทยุอื่นๆ? บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกคลื่นวิทยุ FM ตั้งแต่ย่านความถี่ที่เป็นเอกลักษณ์ ไปจนถึงข้อดีข้อเสียที่ซ่อนอยู่

คลื่นวิทยุ FM: ย่านความถี่ที่กำหนดความสามารถ

หัวใจสำคัญของ FM คือย่านความถี่ที่ใช้งาน โดยคลื่นวิทยุ FM ครอบคลุมช่วงความถี่ 87.5 ถึง 108 MHz ซึ่งอยู่ในช่วงความถี่ที่เรียกว่า VHF (Very High Frequency) ย่านความถี่นี้เองที่เป็นตัวกำหนดลักษณะเฉพาะและประสิทธิภาพของ FM ที่แตกต่างจากระบบวิทยุอื่นๆ

FM: การมอดูเลตความถี่ที่ให้เสียงคมชัด

FM ย่อมาจาก Frequency Modulation หรือการมอดูเลตความถี่ ซึ่งเป็นเทคนิคการส่งสัญญาณเสียงโดยการเปลี่ยนแปลงความถี่ของคลื่นพาหะตามความแรงของสัญญาณเสียงต้นฉบับ เทคนิคนี้ช่วยให้ FM สามารถส่งสัญญาณเสียงที่มีคุณภาพสูง มีความผิดเพี้ยนต่ำ และทนทานต่อสัญญาณรบกวนได้ดีกว่าระบบ AM (Amplitude Modulation) ที่มีการเปลี่ยนแปลงความแรงของคลื่นพาหะ

การเดินทางของคลื่น FM: จากสถานีสู่เครื่องรับวิทยุ

การแพร่กระจายของคลื่น FM นั้นแตกต่างจาก AM อย่างมาก คลื่น FM มีลักษณะเป็น คลื่นตรง (Line-of-Sight) ซึ่งหมายความว่าคลื่นจะเดินทางเป็นเส้นตรงจากสถานีส่งไปยังเครื่องรับวิทยุโดยตรง ทำให้คลื่น FM ไม่สามารถเดินทางข้ามสิ่งกีดขวางขนาดใหญ่ เช่น ภูเขา หรืออาคารสูง ได้ดีเท่าคลื่น AM

ถึงแม้ว่า FM จะไม่สามารถอาศัยการสะท้อนจากชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์เหมือน AM เพื่อเพิ่มระยะการส่งสัญญาณ แต่คลื่น FM ก็ยังสามารถเดินทางได้ไกลพอสมควร โดยทั่วไปแล้วระยะทางของคลื่น FM จะขึ้นอยู่กับกำลังส่งของสถานี ความสูงของเสาส่ง และสภาพภูมิประเทศโดยรอบ

ข้อดีและข้อเสียของคลื่นวิทยุ FM

ข้อดี:

  • คุณภาพเสียงที่เหนือกว่า: FM ให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า AM อย่างเห็นได้ชัด มีความผิดเพี้ยนต่ำ และให้เสียงที่คมชัดกว่า
  • ทนทานต่อสัญญาณรบกวน: FM ทนทานต่อสัญญาณรบกวนจากไฟฟ้าและสภาพอากาศได้ดีกว่า AM ทำให้รับฟังได้ชัดเจนในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณรบกวนสูง
  • ช่วงความถี่กว้าง: ย่านความถี่ FM ที่กว้างกว่า AM ทำให้สามารถรองรับสถานีวิทยุได้มากกว่า และแต่ละสถานีสามารถส่งสัญญาณเสียงที่มีแบนด์วิธกว้างกว่า

ข้อเสีย:

  • ระยะทางจำกัด: คลื่น FM เดินทางเป็นเส้นตรง ทำให้ระยะทางในการส่งสัญญาณจำกัดกว่าคลื่น AM
  • ถูกรบกวนจากสิ่งกีดขวาง: คลื่น FM ไม่สามารถเดินทางข้ามสิ่งกีดขวางขนาดใหญ่ เช่น ภูเขา หรืออาคารสูง ได้ดีเท่าคลื่น AM
  • ต้องการกำลังส่งสูง: เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการที่กว้างขวาง สถานี FM จำเป็นต้องใช้กำลังส่งที่สูงกว่าสถานี AM

สรุป

คลื่นวิทยุ FM เป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในวงการสื่อสารและบันเทิง ด้วยคุณภาพเสียงที่เหนือกว่าและความทนทานต่อสัญญาณรบกวน ทำให้ FM เป็นที่นิยมในการส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นเพลง ข่าวสาร หรือรายการวิทยุต่างๆ ถึงแม้จะมีข้อจำกัดในเรื่องของระยะทางและการถูกรบกวนจากสิ่งกีดขวาง แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง คลื่นวิทยุ FM ยังคงเป็นช่องทางหลักในการรับฟังเสียงที่คมชัดและมีคุณภาพสำหรับผู้คนทั่วโลก