ควรชาร์จแบตตอนเหลือกี่%

ยืดอายุแบตเตอรี่: อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่ร้องไห้ หรืออิ่มจนเกินไป!

ในยุคที่สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน การมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง แต่รู้หรือไม่ว่า การชาร์จแบตเตอรี่อย่างถูกวิธีนั้นมีผลโดยตรงต่ออายุการใช้งาน หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าการชาร์จจนเต็ม 100% ทุกครั้งจะดีที่สุด แต่ความจริงแล้ววิธีการนี้กลับเป็นการเร่งให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น

ปัจจุบัน แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-ion) ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุปกรณ์ต่างๆ นั้นมีความไวต่อวงจรการชาร์จและการคายประจุ การชาร์จจนเต็ม 100% หรือปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือน้อยกว่า 20% จะสร้างความเครียดให้กับเซลล์แบตเตอรี่ เปรียบเสมือนการบังคับให้มันทำงานหนักเกินไป ส่งผลให้เกิดความเสื่อมสภาพของเซลล์และลดประสิทธิภาพการเก็บประจุในระยะยาว

แล้วควรชาร์จแบตเตอรี่อย่างไรจึงจะเหมาะสม? คำตอบคือ หลีกเลี่ยงทั้งสองสุดขั้ว การรักษาอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนาน เราควรชาร์จแบตเตอรี่เมื่อระดับแบตเตอรี่เหลือประมาณ 25-40% และถอดปลั๊กเมื่อถึง 70-80% ช่วงเปอร์เซ็นต์นี้เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด ช่วยลดความเครียดต่อแบตเตอรี่และยืดอายุการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การเลือกใช้ที่ชาร์จคุณภาพดีและเหมาะสมกับอุปกรณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน ที่ชาร์จคุณภาพต่ำอาจส่งกระแสไฟฟ้าไม่คงที่ ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น เช่นเดียวกับการใช้งานอุปกรณ์ในขณะชาร์จ อาจทำให้แบตเตอรี่ร้อนจัดและส่งผลเสียต่ออายุการใช้งานได้

การปรับเปลี่ยนนิสัยการชาร์จแบตเตอรี่เล็กน้อย ด้วยการชาร์จแบบ “พอดีๆ” ไม่เต็มจนเกินไปและไม่ปล่อยให้เหลือน้อยเกินไป จะช่วยให้แบตเตอรี่ของเราอยู่กับเราไปได้นาน ประหยัดทั้งเงินและเวลาในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ลองเปลี่ยนวิธีการชาร์จแบตเตอรี่ดู คุณอาจประหลาดใจกับอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!