จำเป็นต้องปิดเครื่องโทรศัพท์ไหม

2 การดู

พักสายตาจากหน้าจอมือถือเป็นประจำ เพื่อถนอมสายตา ลดอาการปวดตา ตาแห้ง และป้องกันภาวะสายตาพร่ามัวหรือสายตาสั้น ลองใช้วิธี 20-20-20 คือมองวัตถุที่ห่างออกไป 20 ฟุต ทุกๆ 20 นาที เป็นเวลา 20 วินาที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

จำเป็นไหม…ที่ต้องปิดเครื่องโทรศัพท์? ชวนคิดเรื่อง “การตัดขาด” เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

ท่ามกลางโลกที่หมุนเร็วจนตามแทบไม่ทัน โทรศัพท์มือถือกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของเราไปโดยปริยาย เชื่อมต่อเราเข้ากับทุกสิ่งอย่างตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ข่าวสารบ้านเมือง ไปจนถึงความบันเทิงนานาชนิด แต่ท่ามกลางความสะดวกสบายและความรวดเร็วเหล่านั้น เคยฉุกคิดกันบ้างไหมว่า “เราจำเป็นต้องปิดเครื่องโทรศัพท์บ้างหรือเปล่า?”

บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาจะบอกว่าโทรศัพท์เป็นสิ่งไม่ดี หรือยุยงให้ทุกคนเลิกใช้ เพียงแต่ต้องการชวนผู้อ่านมาพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานโทรศัพท์อย่างต่อเนื่อง และสำรวจความเป็นไปได้ในการ “ตัดขาด” จากโลกออนไลน์เป็นระยะๆ เพื่อชีวิตที่มีคุณภาพและสมดุลมากขึ้น

ทำไมการ “ตัดขาด” จึงสำคัญ?

  • สุขภาพกายที่ดี: การจ้องหน้าจอนานๆ เป็นสาเหตุของอาการปวดตา ตาแห้ง สายตาพร่ามัว และอาจนำไปสู่ปัญหาสายตาสั้นในระยะยาว ลองใช้วิธี 20-20-20 ที่มีการแนะนำกันอย่างแพร่หลาย นั่นคือ ทุกๆ 20 นาที ให้พักสายตาโดยมองวัตถุที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที แต่การปิดเครื่องโทรศัพท์ไปเลยก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้เราไม่ต้อง “เตือนตัวเอง” ให้พักสายตาบ่อยๆ
  • สุขภาพจิตที่แข็งแรง: การรับข่าวสารและข้อมูลมากมายอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล หรือรู้สึกว่าตนเอง “ตามไม่ทัน” การปิดเครื่องโทรศัพท์ช่วยให้เรามีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น พิจารณาความคิดและความรู้สึกของตนเองอย่างแท้จริง และลดความกดดันจากโลกภายนอก
  • ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น: ลองนึกภาพการทานอาหารกับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคนรัก แต่ทุกคนต่างก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ การสนทนา การแบ่งปันเรื่องราว และการสบตากัน หายไปไหน? การปิดเครื่องโทรศัพท์ในช่วงเวลาสำคัญ ช่วยให้เราใส่ใจกับคนที่อยู่ตรงหน้ามากขึ้น สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและมีความหมาย
  • สมาธิที่จดจ่อ: การแจ้งเตือนต่างๆ จากโทรศัพท์เป็นตัวขัดขวางสมาธิชั้นดี ไม่ว่าจะเป็นเสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชัน ข้อความ หรืออีเมล การปิดเครื่องโทรศัพท์ช่วยให้เราสามารถจดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การอ่านหนังสือ หรือการทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ
  • การพักผ่อนอย่างแท้จริง: การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพ แต่การเล่นโทรศัพท์ก่อนนอนอาจรบกวนการนอนหลับได้ แสงสีฟ้าจากหน้าจอโทรศัพท์จะส่งผลต่อการผลิตเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ การปิดเครื่องโทรศัพท์ก่อนนอนจะช่วยให้เราหลับได้สนิทและตื่นมาอย่างสดชื่น

แล้วต้องปิดเครื่องนานแค่ไหน?

ระยะเวลาในการ “ตัดขาด” นั้นขึ้นอยู่กับความจำเป็นและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน อาจเริ่มจากการปิดเครื่องโทรศัพท์ในช่วงเวลาสั้นๆ เช่น ตอนทานอาหาร ตอนทำสมาธิ หรือตอนก่อนนอน แล้วค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาขึ้นตามความเหมาะสม

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • กำหนดเวลา “พักโซเชียล”: เลือกช่วงเวลาในแต่ละวันหรือแต่ละสัปดาห์ที่จะงดใช้โซเชียลมีเดียโดยเด็ดขาด
  • สร้าง “พื้นที่ปลอดโทรศัพท์”: กำหนดพื้นที่ในบ้านหรือที่ทำงานที่ไม่ควรใช้โทรศัพท์ เช่น โต๊ะอาหาร ห้องนอน หรือห้องสมุด
  • บอกกล่าวให้คนรอบข้างทราบ: แจ้งให้คนใกล้ชิดทราบว่าเราจะปิดเครื่องโทรศัพท์ในช่วงเวลาใด เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดหรือความกังวล
  • ทำกิจกรรมที่ไม่ต้องพึ่งพาโทรศัพท์: ลองหากิจกรรมที่ทำให้เราเพลิดเพลินและผ่อนคลายโดยไม่ต้องใช้โทรศัพท์ เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ออกกำลังกาย ทำอาหาร หรือพบปะเพื่อนฝูง

สรุป:

การปิดเครื่องโทรศัพท์ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง แต่เป็นการสร้างสมดุลให้กับชีวิต ให้เรามีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ดูแลสุขภาพกายและใจให้แข็งแรง สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง และจดจ่อกับสิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริง ลองพิจารณาดูว่าการ “ตัดขาด” จากโทรศัพท์เป็นระยะๆ จะช่วยให้ชีวิตของคุณดีขึ้นได้อย่างไร

คำถามทิ้งท้าย:

  • คุณคิดว่าคุณสามารถ “ตัดขาด” จากโทรศัพท์ได้นานแค่ไหน?
  • กิจกรรมอะไรที่คุณอยากทำถ้าคุณไม่ต้องเล่นโทรศัพท์?
  • คุณคิดว่าการ “ตัดขาด” จากโทรศัพท์จะส่งผลดีต่อชีวิตของคุณอย่างไร?