ฉันจะอนุญาตให้แอปเข้าถึงไมโครโฟนได้อย่างไร

1 การดู

เพื่อให้แอปใช้งานไมโครโฟนได้ เข้าไปที่การตั้งค่าอุปกรณ์ เลือก ความเป็นส่วนตัว หรือ แอป แล้วค้นหา ไมโครโฟน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปิดใช้งานการเข้าถึงไมโครโฟนสำหรับแอปนั้นแล้ว หากยังไม่เปิดอยู่ ให้สลับปุ่มไปที่ เปิด แอปจะสามารถใช้งานไมโครโฟนได้ทันที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปลดล็อกเสียง: คู่มือฉบับละเอียดในการอนุญาตให้แอปพลิเคชันเข้าถึงไมโครโฟนบนอุปกรณ์ของคุณ

ในโลกดิจิทัลที่เชื่อมต่อถึงกันอย่างใกล้ชิดในปัจจุบัน ไมโครโฟนของอุปกรณ์พกพาของเรากลายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะใช้สำหรับการโทรศัพท์, บันทึกเสียง, สั่งงานด้วยเสียง, หรือแม้แต่การเข้าร่วมการประชุมออนไลน์ การอนุญาตให้แอปพลิเคชันต่างๆ เข้าถึงไมโครโฟนได้อย่างถูกต้องจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการใช้งานอุปกรณ์อย่างเต็มศักยภาพ

บทความนี้จะเจาะลึกขั้นตอนการอนุญาตให้แอปพลิเคชันเข้าถึงไมโครโฟนบนอุปกรณ์ของคุณอย่างละเอียด ครอบคลุมทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS พร้อมทั้งให้คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของคุณ

ทำไมต้องอนุญาตการเข้าถึงไมโครโฟน?

การอนุญาตให้แอปพลิเคชันเข้าถึงไมโครโฟนมีความจำเป็นสำหรับการทำงานหลายอย่าง เช่น:

  • การโทรและวิดีโอคอล: แอปพลิเคชันสื่อสาร เช่น WhatsApp, Skype, Zoom จำเป็นต้องเข้าถึงไมโครโฟนเพื่อให้คุณสามารถพูดคุยกับผู้อื่นได้
  • การบันทึกเสียง: แอปพลิเคชันบันทึกเสียง เช่น Voice Recorder, Audacity ต้องการไมโครโฟนเพื่อบันทึกเสียงของคุณ
  • การสั่งงานด้วยเสียง: ผู้ช่วยเสมือนอย่าง Google Assistant หรือ Siri จำเป็นต้องเข้าถึงไมโครโฟนเพื่อฟังคำสั่งเสียงของคุณ
  • การพิมพ์ด้วยเสียง: แอปพลิเคชันที่รองรับการพิมพ์ด้วยเสียงจะใช้ไมโครโฟนเพื่อแปลงคำพูดของคุณเป็นข้อความ

วิธีอนุญาตการเข้าถึงไมโครโฟนบน Android:

  1. เปิดแอปการตั้งค่า: มองหาไอคอนรูปเฟือง (⚙️) บนหน้าจอหลักหรือในลิ้นชักแอป
  2. ไปที่ “แอป” หรือ “แอปพลิเคชัน”: ชื่ออาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นของ Android
  3. เลือกแอปพลิเคชันที่คุณต้องการอนุญาต: เลื่อนดูรายการแอปพลิเคชันที่ติดตั้ง หรือใช้ช่องค้นหาเพื่อค้นหาแอปพลิเคชันที่คุณต้องการ
  4. แตะที่ “สิทธิ์” (Permissions): อาจอยู่ในเมนูรายละเอียดของแอปพลิเคชัน
  5. ค้นหา “ไมโครโฟน” (Microphone): หากไมโครโฟนถูกปิดใช้งาน คุณจะเห็นสวิตช์หรือปุ่มที่ระบุว่า “ไม่อนุญาต” หรือ “ปฏิเสธ”
  6. สลับสวิตช์ไปที่ “อนุญาต” (Allow) หรือ “เปิด” (On): หากแอปพลิเคชันขอสิทธิ์เป็นครั้งแรก ระบบอาจขอให้คุณยืนยันการอนุญาต
  7. เลือกรูปแบบการอนุญาต (ถ้ามี): บางครั้ง Android จะมีตัวเลือกให้เลือกรูปแบบการอนุญาต เช่น “อนุญาตเฉพาะขณะใช้งานแอป” หรือ “อนุญาตเสมอ” เลือกตัวเลือกที่เหมาะสมกับความต้องการและความกังวลของคุณ

วิธีอนุญาตการเข้าถึงไมโครโฟนบน iOS (iPhone/iPad):

  1. เปิดแอปการตั้งค่า: มองหาไอคอนรูปเฟือง (⚙️) บนหน้าจอหลัก
  2. เลื่อนลงไปที่รายการแอปพลิเคชัน: ค้นหาและแตะที่แอปพลิเคชันที่คุณต้องการอนุญาต
  3. มองหา “ไมโครโฟน” (Microphone): หากไมโครโฟนถูกปิดใช้งาน สวิตช์จะอยู่ในตำแหน่งปิด (สีขาว)
  4. สลับสวิตช์ไปที่ตำแหน่งเปิด (สีเขียว): หากแอปพลิเคชันขอสิทธิ์เป็นครั้งแรก ระบบอาจขอให้คุณยืนยันการอนุญาต

ข้อควรระวังและความปลอดภัย:

  • ตรวจสอบสิทธิ์ที่แอปพลิเคชันขอ: ก่อนที่จะอนุญาตให้แอปพลิเคชันเข้าถึงไมโครโฟน ให้พิจารณาว่าแอปพลิเคชันนั้นต้องการไมโครโฟนเพื่ออะไร หากแอปพลิเคชันที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารหรือการบันทึกเสียงขอเข้าถึงไมโครโฟน ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
  • ตรวจสอบสิทธิ์เป็นประจำ: ควรตรวจสอบสิทธิ์ที่แอปพลิเคชันต่างๆ มีอยู่เป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้มอบสิทธิ์ที่จำเป็นและเหมาะสมเท่านั้น
  • ปิดการเข้าถึงไมโครโฟนเมื่อไม่ใช้งาน: หากคุณกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว คุณสามารถปิดการเข้าถึงไมโครโฟนสำหรับแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้งานอยู่ได้
  • ระวังแอปพลิเคชันที่ไม่น่าเชื่อถือ: ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งแอปพลิเคชันจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ และควรตรวจสอบรีวิวและคะแนนของแอปพลิเคชันก่อนติดตั้ง
  • ใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด: การอัปเดตระบบปฏิบัติการของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุดจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าคุณได้รับแพตช์ความปลอดภัยล่าสุด ซึ่งช่วยป้องกันการเข้าถึงไมโครโฟนโดยไม่ได้รับอนุญาต

สรุป:

การอนุญาตให้แอปพลิเคชันเข้าถึงไมโครโฟนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้งานคุณสมบัติหลายอย่างบนอุปกรณ์ของคุณ อย่างไรก็ตาม การตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและปฏิบัติตามข้อควรระวังด้านความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณและมั่นใจได้ว่าไมโครโฟนของคุณถูกใช้งานอย่างเหมาะสมและปลอดภัย