ฉันจะอัปเดต iOS รุ่นเก่าได้อย่างไร

2 การดู

เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ควรตรวจสอบการอัปเดต iOS เป็นประจำ โดยไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > รายการอัปเดตซอฟต์แวร์ หากพบรายการอัปเดต ให้ดาวน์โหลดและติดตั้งตามคำแนะนำ หรือเปิด รายการอัปเดตอัตโนมัติ เพื่อให้ระบบติดตั้งโดยอัตโนมัติเมื่อมีเวอร์ชันใหม่

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ชุบชีวิต iPhone รุ่นเก๋า: คู่มือการอัปเดต iOS สำหรับอุปกรณ์รุ่นเก่า

แม้ว่า iPhone รุ่นใหม่ๆ จะมาพร้อมฟีเจอร์ล้ำสมัยและประสิทธิภาพที่เหนือกว่า แต่ iPhone รุ่นเก่าก็ยังคงเป็นอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้และใช้งานได้ดีในหลายๆ ด้าน การอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS บนอุปกรณ์รุ่นเก่าเหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุง แก้ไขข้อผิดพลาด และอาจรวมถึงคุณสมบัติใหม่ๆ ที่สามารถใช้งานได้กับฮาร์ดแวร์นั้นๆ

อย่างไรก็ตาม การอัปเดต iOS บน iPhone รุ่นเก่าอาจไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนการอัปเดตบนอุปกรณ์รุ่นใหม่ เนื่องจากข้อจำกัดทางฮาร์ดแวร์และนโยบายการสนับสนุนของ Apple ที่อาจทำให้บางรุ่นไม่ได้รับการอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดได้เสมอไป บทความนี้จะนำเสนอแนวทางต่างๆ ที่คุณสามารถลองทำได้ เพื่ออัปเดต iOS บน iPhone รุ่นเก่าของคุณให้เป็นเวอร์ชันที่เหมาะสมที่สุด

1. ตรวจสอบการอัปเดตผ่านการตั้งค่า:

วิธีที่ง่ายที่สุดในการตรวจสอบการอัปเดต iOS คือการเข้าไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > รายการอัปเดตซอฟต์แวร์ iPhone ของคุณจะตรวจสอบว่ามีเวอร์ชันใหม่ให้ดาวน์โหลดและติดตั้งหรือไม่ หากมี ให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อดาวน์โหลดและติดตั้ง แต่โปรดทราบว่า:

  • พื้นที่ว่าง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีพื้นที่ว่างเพียงพอในอุปกรณ์ของคุณสำหรับการดาวน์โหลดและติดตั้งอัปเดต คุณสามารถลบแอปพลิเคชัน รูปภาพ หรือวิดีโอที่ไม่จำเป็นออกก่อนได้
  • แบตเตอรี่: ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มหรือเสียบปลั๊กขณะทำการอัปเดต เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ดับกลางคัน
  • การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต: การเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่เสถียรจะช่วยให้การดาวน์โหลดเป็นไปอย่างราบรื่น

2. ใช้ iTunes บนคอมพิวเตอร์:

หากการอัปเดตผ่านการตั้งค่าไม่สำเร็จ หรือคุณต้องการวิธีที่เสถียรกว่า การใช้ iTunes บนคอมพิวเตอร์ (หรือ Finder บน macOS Catalina ขึ้นไป) ก็เป็นทางเลือกที่ดี:

  • ดาวน์โหลด iTunes: หากคุณยังไม่มี iTunes ให้ดาวน์โหลดและติดตั้งจากเว็บไซต์ของ Apple
  • เชื่อมต่อ iPhone: เชื่อมต่อ iPhone ของคุณกับคอมพิวเตอร์โดยใช้สาย USB
  • เปิด iTunes: เปิดโปรแกรม iTunes (หรือ Finder)
  • เลือกอุปกรณ์: เลือก iPhone ของคุณจากรายการอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ
  • ตรวจสอบการอัปเดต: คลิกที่ปุ่ม “ตรวจสอบการอัปเดต” (Check for Update) หากมีเวอร์ชันใหม่ ให้ดาวน์โหลดและติดตั้ง

3. การดาวน์เกรด (Downgrade) หากจำเป็น:

ในบางกรณี การอัปเดตเป็น iOS เวอร์ชันล่าสุดอาจทำให้ iPhone รุ่นเก่าทำงานช้าลง หรือเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิด หากเป็นเช่นนั้น คุณอาจพิจารณาการดาวน์เกรดกลับไปยัง iOS เวอร์ชันก่อนหน้าได้ อย่างไรก็ตาม การดาวน์เกรดมีความซับซ้อนและอาจต้องใช้ความรู้ทางเทคนิค รวมถึงการมีไฟล์ IPSW ของ iOS เวอร์ชันที่ต้องการดาวน์เกรดไว้ล่วงหน้า โปรดระมัดระวังและศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนทำการดาวน์เกรด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ของคุณ

4. การเจลเบรค (Jailbreak):

การเจลเบรค คือการปลดล็อคระบบปฏิบัติการ iOS เพื่อให้สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่ได้รับการอนุมัติจาก Apple และปรับแต่งระบบได้มากขึ้น การเจลเบรคอาจช่วยให้คุณสามารถติดตั้ง iOS เวอร์ชันที่ไม่ได้รองรับอย่างเป็นทางการบน iPhone รุ่นเก่าได้ แต่การเจลเบรคมีความเสี่ยง เช่น อาจทำให้เครื่องไม่เสถียร ถูกโจมตีทางไซเบอร์ และหมดประกันจาก Apple ดังนั้นควรพิจารณาข้อดีข้อเสียอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ

สิ่งที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม:

  • ความเข้ากันได้ของแอป: แอปพลิเคชันบางตัวอาจไม่รองรับ iOS เวอร์ชันเก่า ดังนั้นการอัปเดตอาจทำให้แอปบางแอปใช้งานไม่ได้
  • ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่: การอัปเดต iOS อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่บน iPhone รุ่นเก่า
  • ความปลอดภัย: แม้ว่าการอัปเดต iOS จะช่วยแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย แต่การใช้งาน iPhone รุ่นเก่าที่มี iOS เวอร์ชันเก่าอาจมีความเสี่ยงมากกว่า

สรุป:

การอัปเดต iOS บน iPhone รุ่นเก่าเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความระมัดระวังและความเข้าใจในข้อจำกัดของอุปกรณ์ของคุณ หากคุณทำตามขั้นตอนที่แนะนำและพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ คุณก็จะสามารถอัปเดต iPhone รุ่นเก่าของคุณให้ทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ที่คุณรักไปได้อีกนาน