ซอฟต์แวร์สําเร็จรูปมีกี่ประเภท

6 การดู

ซอฟต์แวร์เปรียบเสมือนมันสมองของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แบ่งเป็นสองประเภทหลัก: ซอฟต์แวร์ระบบที่ทำหน้าที่ควบคุมและจัดการฮาร์ดแวร์ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ เช่น โปรแกรมแต่งรูป หรือโปรแกรมคำนวณ ช่วยให้การทำงานต่างๆ สะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

มากกว่าสอง: พลิกมุมมองการจำแนกประเภทซอฟต์แวร์สำเร็จรูป

มักมีการกล่าวถึงการจำแนกซอฟต์แวร์สำเร็จรูปหลักๆ เพียงสองประเภท คือ ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) และซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) ซึ่งแม้จะเป็นการแบ่งประเภทที่เข้าใจง่ายและครอบคลุมพื้นฐาน แต่ความหลากหลายและความซับซ้อนของซอฟต์แวร์ในปัจจุบันนั้นก้าวไกลไปมากกว่านั้น การจำกัดเพียงสองประเภทอาจทำให้มองข้ามความแตกต่างและคุณสมบัติเฉพาะตัวของซอฟต์แวร์ประเภทอื่นๆ ดังนั้น บทความนี้จะขยายความและเสนอมุมมองที่ครอบคลุมยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการจำแนกประเภทซอฟต์แวร์สำเร็จรูป

การแบ่งประเภทซอฟต์แวร์สามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่นำมาใช้ โดยนอกเหนือจากการแบ่งเป็นซอฟต์แวร์ระบบและซอฟต์แวร์ประยุกต์แล้ว ยังสามารถจำแนกได้อีกหลายประเภท อาทิเช่น:

  • ตามฟังก์ชันการทำงาน: นี่คือวิธีการจำแนกที่พบได้บ่อย โดยพิจารณาจากสิ่งที่ซอฟต์แวร์นั้นทำ เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ (Word Processor), ซอฟต์แวร์ตารางคำนวณ (Spreadsheet), ซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล (Database), ซอฟต์แวร์ออกแบบกราฟิก (Graphic Design), ซอฟต์แวร์เกม (Game), ซอฟต์แวร์การเงิน (Financial Software), ซอฟต์แวร์การจัดการโครงการ (Project Management Software) เป็นต้น ประเภทนี้มีความหลากหลายและละเอียดมาก ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของผู้ใช้

  • ตามแพลตฟอร์ม: ซอฟต์แวร์บางตัวออกแบบมาให้ใช้งานได้เฉพาะบนระบบปฏิบัติการใดระบบปฏิบัติการหนึ่ง เช่น ซอฟต์แวร์เฉพาะสำหรับ Windows, macOS, iOS, หรือ Android การจำแนกประเภทนี้เน้นที่ความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์กับอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการต่างๆ

  • ตามวิธีการจัดจำหน่าย: ซอฟต์แวร์สามารถจัดจำหน่ายได้หลายรูปแบบ เช่น ซอฟต์แวร์แบบโอเพนซอร์ส (Open Source), ซอฟต์แวร์แบบเชิงพาณิชย์ (Commercial Software), ซอฟต์แวร์แบบแชร์แวร์ (Shareware), ซอฟต์แวร์แบบฟรีแวร์ (Freeware) การจำแนกประเภทนี้จะพิจารณาจากรูปแบบการอนุญาตให้ใช้งานและการจัดการลิขสิทธิ์

  • ตามขนาดและความซับซ้อน: ซอฟต์แวร์สามารถแบ่งได้เป็น ซอฟต์แวร์ขนาดเล็ก (Small-scale software) ที่มีฟังก์ชันการทำงานจำกัด จนถึงซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่และซับซ้อน (Large-scale software) ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและมีฟังก์ชันการทำงานมากมาย เช่น ระบบ Enterprise Resource Planning (ERP)

สรุปแล้ว การจำแนกประเภทซอฟต์แวร์สำเร็จรูปนั้นไม่จำกัดอยู่ที่เพียงสองประเภท แต่ขึ้นอยู่กับมุมมองและเกณฑ์ที่ใช้ การเข้าใจการจำแนกประเภทที่หลากหลายนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมกับความต้องการและงานของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สามารถเข้าใจตลาดและพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น