ดูหนัง 1 ชม. ใช้เน็ตกี่ GB

การดูหนังออนไลน์ 1 ชั่วโมง ใช้เน็ตกี่ GB?

การดูหนังออนไลน์ในปัจจุบันได้กลายเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากความสะดวกสบายและตัวเลือกที่หลากหลายที่บริการสตรีมมิงต่างๆ เสนอให้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้งานมักสงสัยคือการดูหนังออนไลน์ 1 ชั่วโมงจะใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ตเท่าไหร่

ปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ใช้ในการดูหนังออนไลน์ 1 ชั่วโมงจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยปัจจัยหลักคือความละเอียดของวิดีโอที่ผู้ใช้เลือก

ความละเอียดของวิดีโอ

ความละเอียดของวิดีโอจะวัดเป็นจำนวนพิกเซลในแนวนอนและแนวตั้งที่สร้างภาพวิดีโอ ยิ่งความละเอียดของวิดีโอสูงเท่าไหร่ ก็จะยิ่งใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ตมากขึ้นเท่านั้น โดยทั่วไปแล้ว ความละเอียดของวิดีโอที่พบได้ทั่วไป ได้แก่

• ความละเอียดมาตรฐาน (SD): 480p หรือ 576p ซึ่งใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ตประมาณ 0.7 GB ต่อชั่วโมง
• ความละเอียดสูง (HD): 720p หรือ 1080p ซึ่งใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ตประมาณ 1.5 GB ต่อชั่วโมง
• ความละเอียดสูงมาก (4K): 2160p หรือ 3840p ซึ่งใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ตประมาณ 3 GB หรือมากกว่านั้น ต่อชั่วโมง

ตัวอย่างการคำนวณ

หากผู้ใช้ต้องการดูหนังความยาว 90 นาทีด้วยความละเอียด HD (1080p) ปริมาณการใช้เน็ตจะคำนวณได้ดังนี้:

• ปริมาณข้อมูลที่ใช้ต่อชั่วโมง = 1.5 GB
• จำนวนชั่วโมง = 90 นาที / 60 นาที = 1.5 ชั่วโมง
• ปริมาณข้อมูลทั้งหมด = 1.5 GB x 1.5 ชั่วโมง = 2.25 GB

ดังนั้น การดูหนังความยาว 90 นาทีด้วยความละเอียด HD จะใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ตประมาณ 2.25 GB

ปัจจัยอื่นๆ

นอกจากความละเอียดของวิดีโอแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อปริมาณการใช้เน็ตในการดูหนังออนไลน์ ได้แก่

• อัตราบิต: อัตราบิตของวิดีโอจะวัดเป็นเมกะบิตต่อวินาที (Mbps) ซึ่งยิ่งอัตราบิตสูงเท่าไหร่ คุณภาพของวิดีโอก็จะยิ่งดีขึ้นและใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ตมากขึ้นเท่านั้น
• การบีบอัดวิดีโอ: โคเดกที่ใช้ในการบีบอัดวิดีโอจะส่งผลต่อขนาดไฟล์ของวิดีโอและปริมาณอินเทอร์เน็ตที่ใช้
• การแคชข้อมูล: บริการสตรีมมิงบางรายจะแคชข้อมูลวิดีโอไว้ล่วงหน้า ซึ่งอาจช่วยลดปริมาณการใช้เน็ตได้

การวางแผนการใช้งานอินเทอร์เน็ต

ผู้ใช้ควรรู้แผนการใช้งานอินเทอร์เน็ตของตนและคำนวณปริมาณการใช้เน็ตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการดูหนังออนไลน์ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เน็ตเกินและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับผู้ใช้ที่มีแผนการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบจำกัด ควรเลือกรับชมวิดีโอความละเอียดต่ำกว่าหรือใช้บริการสตรีมมิงที่มีฟีเจอร์การจำกัดปริมาณการใช้เน็ต