ตู้เย็น 7 คิว กินไฟกี่บาท

ตู้เย็น 7 คิว กินไฟเท่าไหร่? คำนวณค่าไฟอย่างเข้าใจ

คำถามยอดฮิตสำหรับคนซื้อตู้เย็นขนาดเล็กอย่าง 7 คิว คงหนีไม่พ้นเรื่องค่าไฟฟ้า หลายคนอาจเคยได้ยินว่าตู้เย็นขนาดนี้กินไฟน้อย แต่ “น้อย” แค่ไหนกันแน่? บทความนี้จะพาไปเจาะลึกเรื่องการกินไฟของตู้เย็น 7 คิว และวิธีคำนวณค่าไฟอย่างแม่นยำ

โดยทั่วไป ตู้เย็น 7 คิว จะกินไฟเฉลี่ยน้อยกว่า 10 หน่วยต่อเดือน ซึ่งถือว่าประหยัดไฟกว่าตู้เย็นขนาดใหญ่ แต่ตัวเลขนี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ย ค่าไฟฟ้าที่แท้จริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญหลายประการ ได้แก่:

• อุณหภูมิโดยรอบ: หากวางตู้เย็นในบริเวณที่อากาศร้อนอบอ้าว ตัวเครื่องจะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในให้คงที่ ส่งผลให้กินไฟมากขึ้น
• ความถี่ในการเปิด-ปิด: ยิ่งเปิดตู้เย็นบ่อยและนานเท่าไหร่ อากาศเย็นภายในก็จะสูญเสียออกไปมากเท่านั้น ทำให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อทำความเย็นใหม่ จึงกินไฟเพิ่มขึ้น
• ประสิทธิภาพของตู้เย็น: ตู้เย็นแต่ละรุ่นแม้จะมีขนาดเท่ากัน แต่เทคโนโลยีและประสิทธิภาพในการประหยัดไฟฟ้าแตกต่างกัน ตู้เย็นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ย่อมกินไฟน้อยกว่ารุ่นที่ไม่มีฉลาก หรือมีฉลากเบอร์ต่ำกว่า
• การตั้งค่าอุณหภูมิ: การตั้งอุณหภูมิภายในตู้เย็นให้เย็นจัดเกินความจำเป็น จะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้น และกินไฟมากขึ้น

ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการประเมินค่าไฟฟ้าของตู้เย็น 7 คิว คือการ ตรวจสอบฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 บนตัวเครื่อง ฉลากนี้จะระบุข้อมูลสำคัญ เช่น ปริมาณการใช้ไฟฟ้าต่อปี (หน่วย/ปี) ซึ่งเราสามารถนำมาคำนวณค่าไฟฟ้ารายเดือนได้อย่างคร่าวๆ โดยนำค่าที่ได้หารด้วย 12

นอกจากนี้ ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ยังแสดงระดับประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน โดยมีดาวแสดงระดับ ยิ่งมีดาวมาก ยิ่งประหยัดไฟมาก การเลือกซื้อตู้เย็นที่มีฉลากเบอร์ 5 และมีดาวจำนวนมาก จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาว

อย่าลืมว่า แม้ตู้เย็น 7 คิว จะกินไฟน้อย แต่การใช้งานอย่างรู้คุณค่า เช่น ไม่เปิดตู้เย็นบ่อยหรือทิ้งไว้เป็นเวลานาน จัดเก็บอาหารอย่างเป็นระเบียบ และเลือกตำแหน่งวางตู้เย็นให้เหมาะสม ก็จะช่วยประหยัดไฟฟ้าได้มากขึ้น ลดค่าใช้จ่าย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย