ทำไมไอโฟนโทรแล้วไม่ได้ยินเสียง

1 การดู

ปัญหา iPhone โทรแล้วไม่ได้ยินเสียงอาจเกิดจากการตั้งค่าไมโครโฟนผิดพลาด ลองตรวจสอบการตั้งค่าเสียง ระดับเสียงเรียกเข้า และลำโพง หรือลองรีสตาร์ทเครื่อง หากยังไม่ได้ผล ให้ลองอัปเดต iOS เพื่อแก้ไขบั๊กที่อาจเกิดขึ้น หรือติดต่อผู้ให้บริการเครือข่ายสำหรับปัญหาสัญญาณ การทำความสะอาดพอร์ตเชื่อมต่อก็อาจช่วยได้เช่นกัน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปริศนาโทรศัพท์เงียบ: เมื่อ iPhone ของคุณไม่ส่งเสียงขณะสนทนา

ปัญหา “โทรออกแล้วไม่ได้ยินเสียง” บน iPhone เป็นเรื่องน่าหงุดหงิดที่หลายคนเคยประสบ มากกว่าแค่ความไม่สะดวก มันคือการขัดขวางการสื่อสารที่สำคัญ แต่ก่อนที่จะนำ iPhone ไปซ่อมหรือโทษคุณภาพเครือข่าย ลองสำรวจสาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเหล่านี้กันก่อน ซึ่งอาจช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายของคุณได้

1. เสียงหายไปเพราะ…การตั้งค่าที่ผิดพลาด?

จุดเริ่มต้นที่ง่ายที่สุดและควรถูกตรวจสอบก่อนเสมอคือการตั้งค่าต่างๆ ของ iPhone ลองตรวจสอบดังนี้:

  • ระดับเสียง (Volume): ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระดับเสียงของเสียงเรียกเข้าและเสียงสนทนา (ringer and call audio) ไม่ได้ถูกตั้งไว้ที่ระดับต่ำสุด หรือถูกปิดเสียงโดยไม่ตั้งใจ สังเกตไอคอนลำโพงบนหน้าจอ หากมีเส้นขีดผ่าน นั่นหมายความว่าโทรศัพท์ถูกปิดเสียง
  • โหมดเสียง (Silent Mode): ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสวิตช์ปิดเสียง (Ring/Silent switch) บนด้านข้างของ iPhone ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งปิดเสียง สวิตช์นี้มักถูกมองข้ามและเป็นสาเหตุหลักของปัญหา
  • การตั้งค่า “Do Not Disturb”: โหมด “ห้ามรบกวน” (Do Not Disturb) อาจถูกเปิดใช้งานโดยไม่ตั้งใจ ตรวจสอบการตั้งค่านี้และปิดใช้งานหากไม่จำเป็น
  • การตั้งค่าการเข้าถึง (Accessibility): ในบางกรณี การตั้งค่าความช่วยเหลือสำหรับผู้พิการเช่นการปรับระดับเสียง mono อาจส่งผลต่อการได้ยินเสียง ลองตรวจสอบการตั้งค่าเหล่านี้

2. เกินกว่าการตั้งค่า: ปัญหาทางฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์

หากการตรวจสอบการตั้งค่าแล้วไม่พบปัญหา สาเหตุอาจมาจากปัญหาทางฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์:

  • ลำโพงเสียหาย: ลองใช้หูฟัง หากได้ยินเสียงปกติ แสดงว่าลำโพงของ iPhone อาจมีปัญหา ควรนำไปตรวจสอบกับศูนย์บริการ
  • ไมโครโฟนมีปัญหา: หากอีกฝั่งไม่ได้ยินคุณ ปัญหาอาจอยู่ที่ไมโครโฟน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดมาปิดกั้นไมโครโฟน เช่น เคสโทรศัพท์หนาๆ
  • ซอฟต์แวร์ล่ม: การรีสตาร์ท iPhone อาจช่วยแก้ไขปัญหาชั่วคราวได้ หากปัญหายังคงอยู่ ลองอัพเดท iOS เวอร์ชันล่าสุด การอัพเดทมักจะมาพร้อมกับการแก้ไขบั๊กและปรับปรุงประสิทธิภาพ
  • ความสะอาด: ลองทำความสะอาดพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ เช่น พอร์ต Lightning หรือพอร์ตหูฟัง ด้วยแปรงขนอ่อน สิ่งสกปรกอาจไปขัดขวางการทำงานของฮาร์ดแวร์

3. อย่าลืมเครือข่าย!

ปัญหาอาจไม่ได้อยู่ที่ตัว iPhone เสมอไป การเชื่อมต่อเครือข่ายก็มีส่วนสำคัญ:

  • สัญญาณอ่อน: ตรวจสอบความแรงของสัญญาณ หากสัญญาณอ่อน คุณอาจได้ยินเสียงแตกๆ หรือไม่ได้ยินเลย ลองเปลี่ยนตำแหน่งหรือติดต่อผู้ให้บริการเครือข่าย
  • ปัญหาเครือข่าย: ปัญหาทางด้านเครือข่ายของผู้ให้บริการอาจเป็นสาเหตุ ติดต่อผู้ให้บริการเพื่อตรวจสอบสถานะเครือข่าย

หากคุณได้ลองวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้นทั้งหมดแล้วและปัญหายังคงอยู่ ควรนำ iPhone ไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการ Apple หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต เพื่อรับการวินิจฉัยและซ่อมแซมอย่างถูกต้อง อย่าปล่อยให้ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไขยากขึ้นในภายหลัง