บัตร Master card กับ Visa ต่างกันอย่างไร

บัตรเครดิต Mastercard และ Visa: คู่แข่งที่คล้ายคลึง แต่แตกต่างในรายละเอียด

เมื่อพูดถึงบัตรเครดิต สองชื่อที่คุ้นหูที่สุดคงหนีไม่พ้น Mastercard และ Visa หลายคนอาจสงสัยว่าบัตรสองประเภทนี้แตกต่างกันอย่างไร ในเมื่อรูปลักษณ์ภายนอกก็คล้ายกัน แถมยังใช้จ่ายได้ทั่วโลกเหมือนกัน บทความนี้จะเจาะลึกถึงความแตกต่างระหว่างบัตรเครดิต Mastercard และ Visa เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกบัตรที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และตอบโจทย์การใช้จ่ายของคุณมากที่สุด

Mastercard และ Visa: เครือข่ายการชำระเงินระดับโลก

สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ Mastercard และ Visa ไม่ใช่ธนาคาร แต่เป็น เครือข่ายการชำระเงิน ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างธนาคารผู้ออกบัตร ร้านค้า และผู้ถือบัตร เมื่อคุณใช้บัตรเครดิต Mastercard หรือ Visa ในการซื้อสินค้าหรือบริการ ข้อมูลการทำธุรกรรมจะถูกส่งผ่านเครือข่ายเหล่านี้ไปยังธนาคารผู้ออกบัตรเพื่ออนุมัติการชำระเงิน จากนั้นเครือข่ายการชำระเงินจะจัดการให้ร้านค้าได้รับเงินค่าสินค้าหรือบริการที่คุณซื้อ

ความแตกต่างอยู่ที่สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่น

แม้ว่า Mastercard และ Visa จะมีบทบาทคล้ายกันในกระบวนการชำระเงิน แต่สิ่งที่ทำให้บัตรทั้งสองประเภทแตกต่างกันคือ สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่น ที่ธนาคารผู้ออกบัตรนำมาผนวกเข้ากับบัตรเครดิตของตน

• โปรโมชั่นร้านอาหาร: บัตรเครดิตบางประเภทอาจมอบส่วนลดพิเศษหรือสิทธิพิเศษในการรับประทานอาหารที่ร้านอาหารที่ร่วมรายการ เช่น ส่วนลด 10-20% หรือเมนูพิเศษสำหรับผู้ถือบัตร
• ส่วนลดการเดินทาง: สำหรับนักเดินทางตัวยง บัตรเครดิตบางประเภทอาจมอบส่วนลดในการจองโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน หรือบริการเช่ารถ รวมถึงประกันการเดินทางฟรี
• คะแนนสะสมและโปรแกรมสะสมแต้ม: บัตรเครดิตส่วนใหญ่มอบคะแนนสะสมเมื่อคุณใช้จ่ายผ่านบัตร ซึ่งคะแนนสะสมเหล่านี้สามารถนำไปแลกเป็นของรางวัล ส่วนลด หรือเครดิตเงินคืนได้ นอกจากนี้ บัตรเครดิตบางประเภทยังมีโปรแกรมสะสมแต้มที่มอบสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น การเข้าใช้ห้องรับรองในสนามบิน หรืออัพเกรดห้องพักฟรี
• สิทธิประโยชน์อื่นๆ: นอกจากโปรโมชั่นข้างต้น บัตรเครดิตบางประเภทยังมอบสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันสินค้าที่ซื้อผ่านบัตร หรือบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน

เลือกบัตรที่ใช่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์

เนื่องจาก Mastercard และ Visa เป็นเพียงเครือข่ายการชำระเงิน ดังนั้นการเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับ สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่น ที่ธนาคารผู้ออกบัตรนำเสนอ หากคุณเป็นนักชิมที่ชอบลองร้านอาหารใหม่ๆ บัตรเครดิตที่มอบส่วนลดร้านอาหารอาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณเป็นนักเดินทางตัวยง บัตรเครดิตที่มอบส่วนลดการเดินทางและประกันการเดินทางฟรีอาจเหมาะกับคุณมากกว่า

เคล็ดลับในการเลือกบัตรเครดิต:

1. พิจารณาไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการใช้จ่ายของคุณ: คุณใช้จ่ายอะไรบ่อยที่สุด? เดินทางบ่อยแค่ไหน? ชอบทานอาหารนอกบ้านหรือไม่?
2. เปรียบเทียบสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นของบัตรเครดิตต่างๆ: อ่านรายละเอียดของแต่ละบัตรอย่างละเอียดเพื่อดูว่าบัตรใดมอบสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด
3. พิจารณาค่าธรรมเนียมและอัตราดอกเบี้ย: บัตรเครดิตบางประเภทอาจมีค่าธรรมเนียมรายปีหรืออัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัตรอื่นๆ
4. เลือกบัตรที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของคุณ: อย่าเลือกบัตรเครดิตเพียงเพราะมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจ แต่ให้เลือกบัตรที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของคุณ

สรุป

Mastercard และ Visa เป็นเครือข่ายการชำระเงินระดับโลกที่อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมด้วยบัตรเครดิต ความแตกต่างที่แท้จริงอยู่ที่สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นที่ธนาคารผู้ออกบัตรนำเสนอ ดังนั้นการเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับการพิจารณาไลฟ์สไตล์ พฤติกรรมการใช้จ่าย และความต้องการส่วนบุคคลของคุณ เลือกบัตรที่มอบความคุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้จ่ายของคุณมากที่สุด เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้บัตรเครดิต