บาร์โค้ดบอกอะไรได้บ้าง

2 การดู

บาร์โค้ดไม่ได้มีแค่เส้นขีด! ลองสังเกตตัวเลขใต้บาร์โค้ดดูสิ ตัวเลขชุดแรกบ่งบอกถึงประเทศผู้ผลิต เช่น ไทยใช้รหัส 885 ส่วนตัวเลขชุดต่อมาจะเจาะจงไปถึงโรงงานและชนิดของสินค้าที่ผลิตออกมา และเลขสุดท้ายยังช่วยตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทั้งหมดด้วยนะ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

บาร์โค้ด: รหัสลับที่มากกว่าแค่เส้นขีด บอกอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด

บาร์โค้ด… สัญลักษณ์ที่คุ้นตาตามสินค้าแทบทุกชนิดที่เราจับจ่ายใช้สอยกันในชีวิตประจำวัน มองเผินๆ อาจดูเหมือนแค่เส้นขีดสลับสีดำขาวที่ใช้สำหรับยิงสแกนเพื่อคิดเงิน แต่ความจริงแล้ว บาร์โค้ดนั้นซ่อนข้อมูลที่น่าสนใจไว้มากมาย มากกว่าแค่การระบุชื่อสินค้าและราคา

หลายคนอาจทราบว่าตัวเลขใต้บาร์โค้ดนั้นมีความหมาย แต่ทราบหรือไม่ว่าตัวเลขแต่ละชุดนั้นมีความหมายอย่างไร? ลองพิจารณาบาร์โค้ดของสินค้าสักชิ้น แล้วมาไขรหัสลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเส้นขีดเหล่านั้นไปด้วยกัน

ตัวเลขชุดแรก: บ่งบอกแหล่งกำเนิด

ตัวเลขชุดแรกที่ปรากฏใต้บาร์โค้ด คือรหัสประเทศที่สินค้าชิ้นนั้นถูกผลิตขึ้น ยกตัวอย่างเช่น สินค้าที่ผลิตในประเทศไทยมักจะเริ่มต้นด้วยรหัส 885 ซึ่งเป็นรหัสประจำประเทศไทยตามมาตรฐาน GS1 (Global Standard One) แต่รหัสเหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประเทศเท่านั้น บางครั้งเราอาจพบรหัสที่บ่งบอกถึงกลุ่มประเทศหรือองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้านั้นๆ ด้วย

ตัวเลขชุดต่อมา: เจาะจงถึงผู้ผลิตและชนิดสินค้า

หลังจากทราบแหล่งกำเนิดแล้ว ตัวเลขชุดต่อมาจะลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น โดยจะระบุถึงผู้ผลิตหรือโรงงานที่ทำการผลิตสินค้านั้นๆ รวมถึงชนิดหรือประเภทของสินค้า ตัวเลขชุดนี้จะช่วยให้เราสามารถจำแนกความแตกต่างระหว่างสินค้าที่มาจากผู้ผลิตรายเดียวกัน แต่มีรูปแบบหรือขนาดที่แตกต่างกันได้

ตัวเลขสุดท้าย: ตัวตรวจสอบความถูกต้อง

ปิดท้ายด้วยตัวเลขเพียงตัวเดียวที่อาจถูกมองข้าม แต่มีความสำคัญอย่างยิ่ง นั่นคือตัวเลขตรวจสอบ (Check Digit) ตัวเลขนี้ไม่ได้บ่งบอกข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับสินค้าโดยตรง แต่มีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของตัวเลขทั้งหมดในบาร์โค้ด โดยใช้สูตรคำนวณทางคณิตศาสตร์ หากตัวเลขตรวจสอบไม่ถูกต้อง ระบบจะไม่สามารถอ่านข้อมูลจากบาร์โค้ดนั้นได้ ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ได้จากการสแกนนั้นถูกต้องและแม่นยำ

มากกว่าแค่การสแกน: ประโยชน์ของบาร์โค้ดที่คาดไม่ถึง

นอกจากจะช่วยให้การคิดเงินเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำแล้ว บาร์โค้ดยังมีบทบาทสำคัญในด้านอื่นๆ อีกมากมาย เช่น

  • การจัดการสินค้าคงคลัง: บาร์โค้ดช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาด และประหยัดเวลาในการนับสต็อกสินค้า
  • การควบคุมคุณภาพ: บาร์โค้ดสามารถใช้ในการติดตามสินค้าตลอดกระบวนการผลิต ช่วยให้มั่นใจได้ว่าสินค้าทุกชิ้นเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด
  • การวิเคราะห์ข้อมูล: ข้อมูลจากบาร์โค้ดสามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค ปรับปรุงการตลาด และวางแผนธุรกิจ

บาร์โค้ด: โลกแห่งข้อมูลที่รอการค้นพบ

ดังนั้น ครั้งต่อไปที่คุณเห็นบาร์โค้ดบนสินค้า อย่ามองข้ามมันไป ลองสังเกตตัวเลขที่อยู่ข้างใต้ แล้วคุณจะพบว่าบาร์โค้ดนั้นไม่ได้มีแค่เส้นขีด แต่เป็นรหัสลับที่ซ่อนโลกแห่งข้อมูลที่น่าสนใจไว้มากมาย ให้คุณได้เรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้าและกระบวนการผลิตของมันมากยิ่งขึ้น