ปัญญาประดิษฐ์แบ่งออกเป็น 3 ประเภทอะไรบ้าง

ปัญญาประดิษฐ์ : พลังแห่งอนาคตที่แบ่งออกเป็น 3 ประเภท

ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) กำลังเปลี่ยนแปลงโลกของเราอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบที่สามารถเรียนรู้ คิด และตัดสินใจได้เหมือนมนุษย์

แต่ปัญญาประดิษฐ์นั้นไม่ได้มีเพียงแบบเดียว โดยทั่วไปแล้ว AI ถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่

1. ปัญญาประดิษฐ์แคบ (Narrow AI)

ปัญญาประดิษฐ์แคบ เป็นประเภทที่เราพบเจอได้ทั่วไปในปัจจุบัน เนื่องจากถูกออกแบบมาเพื่อทำงานเฉพาะอย่าง เช่น

• การแปลภาษา: ระบบแปลภาษาแบบอัตโนมัติ เช่น Google Translate
• การแนะนำสินค้า: ระบบแนะนำสินค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น Lazada, Shopee
• การตรวจจับใบหน้า: ระบบตรวจจับใบหน้าในสมาร์ทโฟน
• การเล่นเกม: ระบบ AI ที่เล่นเกม เช่น หมากรุก Go

2. ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (General AI)

ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป เป็นเป้าหมายสูงสุดของนักวิจัย AI โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบที่มีศักยภาพในการเรียนรู้และแก้ปัญหาได้หลากหลาย เหมือนกับมนุษย์ เช่น

• การเรียนรู้จากประสบการณ์: สามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ใหม่ ๆ และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่ไม่เคยพบมาก่อน
• การแก้ปัญหา: สามารถวิเคราะห์และแก้ปัญหาในหลากหลายสาขาได้ เช่น การแพทย์ การวิจัย
• การสร้างสรรค์: สามารถสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ เช่น บทกวี เพลง ภาพวาด

ในปัจจุบัน ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไปยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น แต่มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง

3. ปัญญาประดิษฐ์เหนือมนุษย์ (Superintelligence)

ปัญญาประดิษฐ์เหนือมนุษย์ เป็นแนวคิดที่ AI มีความสามารถเหนือมนุษย์ในทุกด้าน สามารถคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาได้เร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์อย่างมาก

Superintelligence ยังอยู่ในขั้นทฤษฎี และยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่เป็นหัวข้อที่ถูกถกเถียงอย่างกว้างขวางในวงการ AI และสังคม

การแบ่งประเภทของปัญญาประดิษฐ์นี้ช่วยให้เราเข้าใจถึงความสามารถและศักยภาพของ AI ได้ดียิ่งขึ้น และช่วยในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ในหลากหลายสาขา ทั้งด้านการแพทย์ การศึกษา การค้า และอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม การพัฒนา AI นำมาซึ่งคำถามทางจริยธรรมและสังคม เช่น ความเสี่ยงต่อการสูญเสียงาน การควบคุมและการใช้งานที่ไม่เหมาะสม การพัฒนา AI ในอนาคตจึงต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมอย่างรอบคอบ