มีวิธีเก็บรูปภาพไม่ให้ใครเห็นอย่างไร

เก็บภาพลับฉบับมือโปร: ไม่ต้องง้อแอป, ปลอดภัยหายห่วง

ในยุคดิจิทัลที่รูปภาพกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เราถ่ายรูปกันแทบทุกเรื่อง ตั้งแต่ภาพอาหารน่าทาน วิวทิวทัศน์สวยงาม ไปจนถึงโมเมนต์สำคัญกับคนพิเศษ แต่บางครั้งก็มีรูปภาพบางประเภทที่เราต้องการเก็บไว้เป็นส่วนตัว ไม่ต้องการให้ใครเห็น ไม่ว่าจะเป็นรูปที่ระลึกส่วนตัว รูปเอกสารสำคัญ หรือรูปอื่นๆ ที่ไม่อยากเปิดเผยต่อสาธารณชน

แน่นอนว่ามีแอปพลิเคชันมากมายที่เคลมว่าสามารถซ่อนรูปภาพได้อย่างปลอดภัย แต่หลายครั้งก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่าย หรือความซับซ้อนในการใช้งาน แล้วถ้าเราอยากเก็บรูปภาพให้พ้นจากสายตาคนอื่น โดยไม่ต้องพึ่งพาแอปพลิเคชันภายนอกล่ะ? วันนี้เรามีเคล็ดลับง่ายๆ แต่ได้ผลจริงมาฝากกัน

1. ซ่อนในโฟลเดอร์ลับ: วิธีเบสิกแต่เวิร์ค

วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการซ่อนรูปภาพแบบเร่งด่วน และไม่อยากยุ่งยากกับการตั้งค่าอะไรมากมาย สิ่งที่คุณต้องทำคือ:

• สร้างโฟลเดอร์ใหม่: ตั้งชื่อโฟลเดอร์ให้ดูธรรมดาที่สุด เช่น “Document”, “Screenshot”, “Image” หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ดึงดูดความสนใจ
• ย้ายรูปภาพ: ย้ายรูปภาพที่คุณต้องการซ่อนไปไว้ในโฟลเดอร์ที่สร้างขึ้น
• ซ่อนโฟลเดอร์: บนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์บางชนิด คุณสามารถคลิกขวาที่โฟลเดอร์ แล้วเลือก “Properties” จากนั้นเลือกแท็บ “General” และติ๊กถูกที่ช่อง “Hidden” โฟลเดอร์นี้จะหายไปจากหน้าจอปกติ แต่ยังคงอยู่ในระบบ (หากต้องการดูโฟลเดอร์ที่ซ่อนไว้ คุณต้องเปิดการแสดงไฟล์และโฟลเดอร์ที่ซ่อนไว้ในระบบ)

ข้อควรระวัง: วิธีนี้ค่อนข้างง่ายต่อการถูกค้นพบ หากใครที่รู้ว่ามีการซ่อนโฟลเดอร์ไว้ ก็สามารถเปิดดูได้ง่ายๆ

2. เข้ารหัสไฟล์: ป้องกันสองชั้นด้วยรหัสผ่าน

วิธีนี้จะเพิ่มความปลอดภัยให้กับรูปภาพของคุณมากยิ่งขึ้น โดยการเข้ารหัสไฟล์ด้วยรหัสผ่าน วิธีการทำอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการที่คุณใช้:

• Windows: สามารถใช้โปรแกรม WinRAR หรือ 7-Zip เพื่อบีบอัดไฟล์รูปภาพและตั้งรหัสผ่านได้
• macOS: สามารถใช้ Disk Utility เพื่อสร้างอิมเมจดิสก์ที่เข้ารหัสด้วยรหัสผ่านได้

ข้อควรระวัง: หากลืมรหัสผ่าน คุณจะไม่สามารถเข้าถึงรูปภาพที่ถูกเข้ารหัสได้

3. ใช้ประโยชน์จาก Cloud Storage: Google Photos กับ “โฟลเดอร์ที่ล็อก”

สำหรับคนที่ใช้ Google Photos อยู่แล้ว คุณสามารถใช้ฟีเจอร์ “โฟลเดอร์ที่ล็อก” (Locked Folder) เพื่อเก็บรูปภาพที่เป็นส่วนตัวได้ วิธีการง่ายๆ คือ:

• สร้างโฟลเดอร์ที่ล็อก: ในแอป Google Photos ให้ไปที่ Library > Utilities > Locked Folder
• ย้ายรูปภาพ: ย้ายรูปภาพที่คุณต้องการซ่อนไปไว้ในโฟลเดอร์ที่ล็อก
• ตั้งค่าความปลอดภัย: โฟลเดอร์ที่ล็อกจะได้รับการป้องกันด้วยรหัสผ่านของอุปกรณ์ หรือการยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์ (เช่น ลายนิ้วมือ หรือการจดจำใบหน้า)

ข้อดี: รูปภาพในโฟลเดอร์ที่ล็อกจะไม่ถูกสำรองข้อมูลขึ้น Cloud ทำให้ปลอดภัยจากผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต แต่ก็ต้องระวังหากอุปกรณ์สูญหายหรือเสียหาย รูปภาพในโฟลเดอร์ที่ล็อกก็จะหายไปด้วย

4. เปลี่ยนนามสกุลไฟล์: หลอกตาแต่ไม่ง่ายเกินไป

วิธีนี้เป็นการเปลี่ยนนามสกุลไฟล์รูปภาพ (เช่น จาก .jpg เป็น .txt) ทำให้ไฟล์รูปภาพไม่สามารถเปิดดูได้ด้วยโปรแกรมดูรูปภาพปกติ เมื่อต้องการดูรูปภาพ เพียงแค่เปลี่ยนนามสกุลไฟล์กลับเป็นแบบเดิม

ข้อควรระวัง: วิธีนี้ไม่ปลอดภัยเท่าที่ควร เพราะใครที่รู้ว่ามีการเปลี่ยนนามสกุลไฟล์ ก็สามารถเปลี่ยนกลับได้ง่ายๆ

5. ซ่อนในไฟล์อื่นๆ: เทคนิคขั้นสูงสำหรับสายลับ

วิธีนี้เป็นการซ่อนรูปภาพไว้ในไฟล์อื่นๆ เช่น ไฟล์ Word หรือไฟล์เพลง โดยใช้โปรแกรมเฉพาะทาง (Steganography Software) ซึ่งจะทำให้คนทั่วไปไม่รู้ว่ามีรูปภาพซ่อนอยู่

ข้อควรระวัง: วิธีนี้ค่อนข้างซับซ้อน และต้องใช้โปรแกรมเฉพาะทางในการซ่อนและกู้คืนรูปภาพ

สรุป:

การเก็บรูปภาพให้เป็นส่วนตัวนั้น มีหลายวิธีให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับความต้องการและความสะดวกของแต่ละบุคคล สิ่งสำคัญคือการเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคุณ และอย่าลืมสำรองข้อมูลรูปภาพของคุณไว้เสมอ เพื่อป้องกันการสูญหาย หากอุปกรณ์ของคุณเกิดปัญหาขึ้นมา

#ความเป็นส่วนตัว#ซ่อนรูปภาพ#รักษาความปลอดภัย