ระดับภาษาของคอมพิวเตอร์มีกี่ระดับ อะไรบ้าง

6 การดู

ภาษาคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็น 2 ระดับหลัก: ภาษาชั้นสูง (High-Level Language) เช่น Python, Java และ C++ ซึ่งเน้นความเข้าใจง่ายสำหรับมนุษย์ และ ภาษาชั้นต่ำ (Low-Level Language) เช่น Assembly ซึ่งใกล้เคียงกับภาษาเครื่องที่คอมพิวเตอร์เข้าใจโดยตรง และมักใช้ในการควบคุมฮาร์ดแวร์โดยตรง.

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ย้อนรอยภาษาคอมพิวเตอร์: ระดับความซับซ้อนที่หลากหลาย

การสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ไม่ใช่เรื่องง่ายดายเหมือนการพูดคุยกับมนุษย์ เราต้องอาศัย “ภาษา” ที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ แต่ภาษาเหล่านั้นไม่ได้มีเพียงระดับเดียว ความซับซ้อนและความใกล้เคียงกับภาษาของมนุษย์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การแบ่งระดับภาษาคอมพิวเตอร์จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการทำความเข้าใจกระบวนการทำงานภายในของระบบ

แม้ว่าการแบ่งระดับจะไม่ตายตัวและมีการถกเถียงกันบ้าง แต่โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถแบ่งภาษาคอมพิวเตอร์ออกได้เป็น 5 ระดับหลัก โดยคำนึงถึงความใกล้เคียงกับภาษาเครื่อง (Machine Language) ซึ่งเป็นภาษาที่คอมพิวเตอร์เข้าใจโดยตรง:

  1. ภาษาเครื่อง (Machine Language): นี่คือระดับต่ำสุด เป็นภาษาที่ประกอบด้วยเลขฐานสอง (0 และ 1) เท่านั้น เป็นภาษาที่คอมพิวเตอร์เข้าใจได้โดยตรง แต่สำหรับมนุษย์แล้ว ยากต่อการเขียนและอ่านอย่างยิ่ง การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาเครื่องต้องมีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์และสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ จึงเป็นวิธีที่ใช้กันน้อยมากในปัจจุบัน ยกเว้นกรณีที่ต้องการควบคุมฮาร์ดแวร์อย่างละเอียดและมีประสิทธิภาพสูงสุด

  2. ภาษาแอสเซมบลี (Assembly Language): เป็นขั้นที่สูงขึ้นมาจากภาษาเครื่องเล็กน้อย ใช้สัญลักษณ์แทนคำสั่งภาษาเครื่อง ทำให้เขียนและอ่านได้ง่ายขึ้นกว่าภาษาเครื่อง แต่ยังคงต้องมีความรู้เกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ นักเขียนโปรแกรมจะใช้แอสเซมเบลอร์ (Assembler) แปลภาษาแอสเซมบลีให้เป็นภาษาเครื่อง ภาษาแอสเซมบลีใช้กันน้อยลงเช่นกัน แต่ยังคงมีความสำคัญในงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น การเขียนไดร์เวอร์อุปกรณ์หรือระบบปฏิบัติการ

  3. ภาษาชั้นต่ำ (Low-Level Language): กลุ่มนี้มักรวมภาษาแอสเซมบลีเข้าไปด้วย แต่บางครั้งก็อาจรวมถึงภาษาอื่นๆ ที่มีความใกล้เคียงกับฮาร์ดแวร์ เช่น ภาษา C ซึ่งแม้จะเป็นภาษาชั้นสูง แต่ก็สามารถควบคุมฮาร์ดแวร์ได้อย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพสูง จึงถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้บางครั้ง

  4. ภาษาชั้นสูง (High-Level Language): เป็นภาษาที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายสำหรับมนุษย์ ใช้คำสั่งที่ใกล้เคียงกับภาษาอังกฤษ เช่น Python, Java, C++, C#, JavaScript, PHP ภาษาเหล่านี้มีความเป็นนามธรรมสูง ซ่อนรายละเอียดเชิงฮาร์ดแวร์ไว้ ทำให้เขียนโปรแกรมได้ง่ายและรวดเร็ว แต่ก็อาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงบ้าง จำเป็นต้องใช้คอมไพเลอร์หรืออินเตอร์พรีเตอร์แปลงเป็นภาษาเครื่องก่อนการทำงาน

  5. ภาษาที่ใช้ความรู้ (Knowledge-Based Language): ระดับสูงสุด เน้นการใช้ความรู้และเหตุผล ตัวอย่างเช่น ภาษา Prolog ซึ่งใช้หลักการตรรกศาสตร์ หรือภาษาที่ใช้ในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ ภาษาเหล่านี้มุ่งเน้นการสร้างระบบที่มีความฉลาด สามารถเรียนรู้และแก้ปัญหาได้ มีความซับซ้อนสูงและใช้ในงานเฉพาะทาง

การเลือกใช้ภาษาคอมพิวเตอร์ระดับใดขึ้นอยู่กับความต้องการของงาน ความซับซ้อนของปัญหา และประสิทธิภาพที่ต้องการ การเข้าใจระดับความซับซ้อนของภาษาต่างๆ จะช่วยให้นักพัฒนาเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม และสร้างสรรค์โปรแกรมที่มีประสิทธิภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด