รีบูทโทรศัพท์ทำยังไง

10 การดู
ขั้นตอนการรีบูทโทรศัพท์ กดปุ่มเปิด/ปิดเครื่องค้างไว้ เมื่อปรากฏตัวเลือก ให้เลือก รีบูต หรือ เริ่มระบบใหม่ โทรศัพท์จะปิดและเปิดเครื่องใหม่โดยอัตโนมัติ
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

รีบูตโทรศัพท์: ทางลัดง่ายๆ คืนชีพสมาร์ทโฟนคู่ใจ

ในยุคดิจิทัลที่โทรศัพท์มือถือกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของเรา การใช้งานอย่างหนักหน่วงและการสะสมข้อมูลต่างๆ อาจทำให้โทรศัพท์เกิดอาการหน่วง ช้า หรือค้างได้ ไม่ว่าจะเกิดจากแอปพลิเคชันที่กินทรัพยากรมากเกินไป ระบบปฏิบัติการที่ทำงานผิดพลาด หรือแม้แต่การสะสมไฟล์ขยะที่รกเครื่อง หนึ่งในวิธีแก้ไขปัญหาที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดคือการ รีบูต (Reboot) หรือการเริ่มต้นระบบใหม่ของโทรศัพท์นั่นเอง

การรีบูตโทรศัพท์เปรียบเสมือนการให้โทรศัพท์ได้พักผ่อนและเริ่มต้นใหม่ ช่วยล้างหน่วยความจำ (RAM) ที่ใช้งานอยู่ ปิดแอปพลิเคชันที่ค้างอยู่เบื้องหลัง และแก้ไขข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในระบบปฏิบัติการ ผลลัพธ์ที่ได้คือโทรศัพท์จะกลับมาทำงานได้รวดเร็วและราบรื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ขั้นตอนการรีบูตโทรศัพท์ (สำหรับโทรศัพท์ส่วนใหญ่):

  1. กดปุ่มเปิด/ปิดเครื่องค้างไว้: มองหาปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่บริเวณด้านข้างหรือด้านบนของตัวเครื่อง กดปุ่มดังกล่าวค้างไว้ประมาณ 2-3 วินาที จนกระทั่งหน้าจอแสดงตัวเลือกต่างๆ ขึ้นมา

  2. เลือก รีบูต หรือ เริ่มระบบใหม่: เมื่อตัวเลือกปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ให้มองหาคำว่า รีบูต (Reboot) หรือ เริ่มระบบใหม่ (Restart) ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและรุ่นของโทรศัพท์ เลือกตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งโดยการแตะที่หน้าจอ

  3. รอโทรศัพท์ปิดและเปิดเครื่องใหม่: หลังจากที่คุณเลือกตัวเลือกแล้ว โทรศัพท์จะทำการปิดเครื่องโดยอัตโนมัติ รอสักครู่ (ประมาณ 30 วินาที ถึง 1 นาที) โทรศัพท์จะเปิดเครื่องขึ้นมาใหม่โดยอัตโนมัติเช่นกัน

ทำไมต้องรีบูต? แล้วมันช่วยอะไรได้บ้าง?

  • แก้ไขปัญหาแอปพลิเคชันค้าง: หากแอปพลิเคชันใดแอปพลิเคชันหนึ่งค้างและไม่ตอบสนอง การรีบูตจะช่วยบังคับปิดแอปพลิเคชันนั้นๆ และทำให้คุณสามารถกลับมาใช้งานโทรศัพท์ได้ตามปกติ

  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: การรีบูตช่วยล้างหน่วยความจำ (RAM) ที่ถูกใช้งานไปกับแอปพลิเคชันต่างๆ ทำให้โทรศัพท์มีพื้นที่ว่างมากขึ้นในการประมวลผล ส่งผลให้การทำงานโดยรวมของโทรศัพท์เร็วขึ้น

  • แก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อ: หากโทรศัพท์ของคุณมีปัญหาในการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ Bluetooth การรีบูตอาจช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ เนื่องจากเป็นการเริ่มต้นการทำงานของระบบเครือข่ายใหม่

  • แก้ไขข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ: การรีบูตสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในระบบปฏิบัติการ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการแปลกๆ หรือการทำงานที่ไม่ปกติของโทรศัพท์

ข้อควรจำ:

  • การรีบูตจะไม่ลบข้อมูลใดๆ ในโทรศัพท์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ วิดีโอ หรือแอปพลิเคชันต่างๆ

  • หากโทรศัพท์ของคุณค้างจนไม่สามารถกดปุ่มเปิด/ปิดเครื่องได้ ให้ลองกดปุ่มเปิด/ปิดเครื่องและปุ่มเพิ่มเสียงพร้อมกันค้างไว้ประมาณ 10-15 วินาที ซึ่งอาจเป็นการบังคับให้โทรศัพท์รีบูต

การรีบูตโทรศัพท์เป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ แต่หากโทรศัพท์ของคุณยังมีปัญหาอยู่หลังจากรีบูตแล้ว อาจจำเป็นต้องลองแก้ไขปัญหาด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การลบแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็น การอัพเดทซอฟต์แวร์ หรือการคืนค่าโรงงาน (Factory Reset) แต่สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น การรีบูตคือจุดเริ่มต้นที่ดีเสมอ