รีสตาร์ทเครื่อง iPhone ทํายังไง

2 การดู

วิธีปิดระบบ Android โดยไม่ต้องใช้ปุ่มเปิด-ปิด

หากคุณกำลังประสบปัญหาปุ่มเปิด-ปิดบน Android ของคุณ คุณสามารถปิดระบบได้โดยใช้เมนูการตั้งค่า การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณสามารถปิดเครื่องได้แม้ว่าปุ่มเปิด-ปิดจะเสียหรือติดอยู่

เพียงเข้าไปที่การตั้งค่า >> ระบบ >> ตัวเลือกขั้นสูง >> ปิดระบบ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

รีสตาร์ท iPhone อย่างง่ายดาย: วิธีการและเคล็ดลับ

การรีสตาร์ท iPhone อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การทำอย่างถูกวิธีนั้นสำคัญมากในการแก้ไขปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น แอปพลิเคชันค้าง หรือ iPhone ทำงานช้าลง บทความนี้จะอธิบายวิธีการรีสตาร์ท iPhone อย่างละเอียด ครอบคลุมทั้ง iPhone รุ่นเก่าและรุ่นใหม่ พร้อมทั้งเคล็ดลับในการดูแลรักษา iPhone ให้ใช้งานได้อย่างราบรื่นยาวนาน

วิธีการรีสตาร์ท iPhone (สำหรับ iPhone 8 ขึ้นไป, รวมถึง iPhone SE รุ่นที่ 2 และ 3):

  1. กดปุ่มเพิ่มระดับเสียงอย่างรวดเร็ว แล้วปล่อย.
  2. กดปุ่มลดระดับเสียงอย่างรวดเร็ว แล้วปล่อย.
  3. กดปุ่มด้านข้างค้างไว้จนกว่าคุณจะเห็นโลโก้ Apple ปรากฏขึ้น. อย่าปล่อยปุ่มจนกว่าโลโก้ Apple จะปรากฏขึ้น

วิธีการรีสตาร์ท iPhone (สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus):

  1. กดปุ่มลดระดับเสียงค้างไว้พร้อมกับปุ่มเปิดปิดค้างไว้พร้อมกัน.
  2. กดค้างไว้จนกว่าคุณจะเห็นโลโก้ Apple ปรากฏขึ้น. อย่าปล่อยปุ่มจนกว่าโลโก้ Apple จะปรากฏขึ้น

วิธีการรีสตาร์ท iPhone (สำหรับ iPhone รุ่นก่อนหน้า iPhone 7):

  1. กดปุ่มเปิดปิดค้างไว้.
  2. เลื่อนแถบ “เลื่อนเพื่อปิดเครื่อง” ไปทางขวา.
  3. รอสักครู่ให้เครื่องปิดสนิท จากนั้นกดปุ่มเปิดปิดค้างไว้จนกว่าโลโก้ Apple ปรากฏขึ้น

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • รีสตาร์ทเป็นประจำ: การรีสตาร์ท iPhone เป็นประจำ (เช่น สัปดาห์ละครั้ง) จะช่วยล้างแคชและข้อมูลชั่วคราว ทำให้ iPhone ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ลองรีสตาร์ทก่อน: ก่อนที่จะติดต่อศูนย์บริการ หรือลองแก้ไขปัญหาด้วยวิธีอื่นๆ การรีสตาร์ทเป็นขั้นตอนแรกที่ควรลองเสมอ เพราะมักจะแก้ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ได้อย่างง่ายดาย
  • แบตเตอรี่ต่ำ: หาก iPhone ของคุณแบตเตอรี่ต่ำมาก อาจรีสตาร์ทไม่ได้ ควรชาร์จแบตเตอรี่ก่อนเพื่อให้แน่ใจว่ามีพลังงานเพียงพอ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการช่วยให้คุณรีสตาร์ท iPhone ได้อย่างถูกต้องและราบรื่น หากคุณยังคงประสบปัญหา โปรดปรึกษาคู่มือผู้ใช้ของ iPhone หรือติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Apple เพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม