วิธีใด ช่วยป้องกันแอพฯ ดูดเงินจาก Mobile Banking หรือ แอพฯ หลอกลงทุนของปลอม

ปลอดภัยไร้กังวล! วิธีป้องกันแอปฯ ดูดเงินและแอปฯ หลอกลงทุนปลอม

ยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเข้าถึงได้ง่ายผ่านมือถือ ก็มาพร้อมกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนและร้ายกาจ โดยเฉพาะแอปพลิเคชันหลอกลวงที่แฝงตัวมาในรูปแบบต่างๆ ทั้งแอปฯ ดูดเงินจาก Mobile Banking และแอปฯ หลอกลงทุนปลอม ซึ่งล้วนแต่ก่อให้เกิดความเสียหายทางการเงินอย่างมหาศาล ดังนั้น การรู้เท่าทันและมีวิธีป้องกันตนเองจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

บทความนี้จะนำเสนอวิธีการป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพที่แอบแฝงอยู่เบื้องหลังแอปฯ เหล่านี้ โดยเน้นไปที่การสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่ง เพื่อปกป้องบัญชีธนาคารและเงินออมอันมีค่าของคุณ:

1. เลือกใช้ช่องทางการดาวน์โหลดแอปฯ ที่ปลอดภัย: อย่าหลงเชื่อเว็บไซต์หรือลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ควรดาวน์โหลดแอปฯ Mobile Banking และแอปฯ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน เฉพาะจาก App Store (สำหรับ iOS) และ Google Play Store (สำหรับ Android) เท่านั้น การตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้พัฒนาแอปฯ รวมถึงการอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานอื่นๆ ก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรละเลย

2. ระวังภัยจาก Wi-Fi สาธารณะ: การทำธุรกรรมทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงิน เช็กยอดเงิน หรือการลงทุน ควรทำผ่าน เครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัย เช่น เครือข่ายมือถือส่วนตัว (Mobile Data) หรือ Wi-Fi ที่เชื่อถือได้เท่านั้น การใช้ Wi-Fi สาธารณะมีความเสี่ยงสูงต่อการถูกดักฟังข้อมูลส่วนตัว และอาจนำไปสู่การถูกขโมยข้อมูลบัญชีได้

3. ตรวจสอบความถูกต้องของแอปฯ อย่างละเอียด: ก่อนที่จะติดตั้งแอปฯ ใดๆ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นแอปฯ ที่ถูกต้อง โดยดูจากโลโก้ ชื่อแอปฯ และรายละเอียดของผู้พัฒนา หากพบความผิดปกติหรือข้อสงสัย ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งแอปฯ นั้น

4. ใช้แอปฯ กรองเบอร์โทรและข้อความที่น่าสงสัย: มิจฉาชีพมักใช้โทรศัพท์หรือข้อความ SMS หลอกล่อเหยื่อให้ติดตั้งแอปฯ หรือให้ข้อมูลส่วนตัว การติดตั้งแอปฯ กรองเบอร์โทรและข้อความที่น่าสงสัย จะช่วยลดโอกาสในการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้

5. อย่าคลิกหรือเปิดลิงก์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ: ข้อความ SMS หรืออีเมลที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อความที่ขอให้คลิกที่ลิงก์ หรือกรอกข้อมูลส่วนตัว ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเป็นการหลอกลวงเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัวของคุณ

6. สร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่งและไม่ซ้ำกัน: ควรใช้รหัสผ่านที่ซับซ้อน มีความยาวอย่างน้อย 8 ตัวอักษร ประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์ และควรเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ เพื่อป้องกันการถูกแฮ็ก

7. เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบสองชั้น (Two-Factor Authentication): ฟีเจอร์นี้จะเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชีของคุณ โดยจะขอรหัสยืนยันเพิ่มเติมจากช่องทางอื่นๆ เช่น อีเมล หรือ SMS ก่อนที่จะอนุญาตให้เข้าสู่ระบบ

8. ติดตามความเคลื่อนไหวในบัญชีอย่างสม่ำเสมอ: ตรวจสอบยอดเงินในบัญชีธนาคาร และรายการธุรกรรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจจับความผิดปกติ หากพบความผิดปกติใดๆ ควรติดต่อธนาคารหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที

การปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้ จะช่วยลดความเสี่ยงในการตกเป็นเหยื่อของแอปฯ ดูดเงินและแอปฯ หลอกลงทุนปลอมได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมว่า ความระมัดระวังและการรู้เท่าทันเทคโนโลยี คือกุญแจสำคัญในการปกป้องความปลอดภัยทางการเงินของคุณ