เขียนเว็บไซต์ด้วยโปรแกรมอะไรดี

8 การดู

โปรแกรมออกแบบเว็บไซต์ 6 ตัวเลือกยอดนิยมสำหรับมือใหม่ในปี 2023 มีทั้งฟรีและเสียค่าบริการ รวมถึง WordPress, Squarespace, Wix, Weebly, Webflow และ Showit แต่ละโปรแกรมมีฟีเจอร์และความยากง่ายในการใช้งานแตกต่างกัน ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ได้หลากหลายรูปแบบและตอบโจทย์การใช้งานของคุณ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สร้างเว็บไซต์ปี 2023: 6 โปรแกรมออกแบบเว็บไซต์ยอดนิยมสำหรับมือใหม่ (ฟรี & เสียค่าบริการ)

การสร้างเว็บไซต์ในยุคดิจิทัลนี้ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป มีเครื่องมือและโปรแกรมมากมายที่ช่วยให้แม้แต่มือใหม่ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างสวยงามและมีประสิทธิภาพ ในปี 2023 นี้ เรามี 6 โปรแกรมออกแบบเว็บไซต์ยอดนิยมที่อยากแนะนำ ทั้งแบบฟรีและเสียค่าบริการ มาดูกันว่าแต่ละโปรแกรมมีจุดเด่นอะไรบ้าง และเหมาะกับใคร

1. WordPress: เจ้าพ่อแห่งวงการ CMS (Content Management System) WordPress เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างสูง มีความยืดหยุ่นสูง ปรับแต่งได้หลากหลาย และมีปลั๊กอินและธีมให้เลือกมากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมเว็บไซต์ได้อย่างเต็มที่ และต้องการฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม WordPress อาจมีความซับซ้อนในการเรียนรู้สำหรับมือใหม่ และต้องดูแลเรื่องการอัปเดตและความปลอดภัยด้วยตนเอง

  • ข้อดี: ยืดหยุ่นสูง, ปรับแต่งได้มาก, มีปลั๊กอินและธีมเยอะ, SEO Friendly
  • ข้อเสีย: ซับซ้อนสำหรับมือใหม่, ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยเอง

2. Squarespace: เน้นความสวยงามและใช้งานง่าย Squarespace เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์ที่ดูทันสมัย มีเทมเพลตสวยงามให้เลือกมากมาย และใช้งานง่าย ไม่ต้องมีความรู้ด้านโค้ดดิ้งก็สามารถสร้างเว็บไซต์ได้ เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก บล็อกเกอร์ และพอร์ตโฟลิโอออนไลน์

  • ข้อดี: ใช้งานง่าย, เทมเพลตสวยงาม, เหมาะสำหรับมือใหม่
  • ข้อเสีย: ปรับแต่งได้น้อยกว่า WordPress, ราคาค่อนข้างสูง

3. Wix: อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย Wix มีอินเทอร์เฟซแบบลากวางที่ใช้งานง่าย และมีแอปพลิเคชันเสริมให้เลือกมากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์อย่างรวดเร็ว และไม่ต้องการยุ่งยากกับโค้ดดิ้ง

  • ข้อดี: ใช้งานง่าย, มีแอปพลิเคชันเยอะ, เหมาะสำหรับมือใหม่
  • ข้อเสีย: ปรับแต่งได้น้อยกว่า WordPress, SEO อาจมีข้อจำกัด

4. Weebly: แพลตฟอร์มที่เน้นความเรียบง่าย Weebly มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย และมีราคาที่เข้าถึงได้ เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และผู้ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์แบบง่ายๆ

  • ข้อดี: ใช้งานง่าย, ราคาถูก, เหมาะสำหรับมือใหม่
  • ข้อเสีย: ฟังก์ชันการทำงานน้อยกว่าแพลตฟอร์มอื่น

5. Webflow: แพลตฟอร์มสำหรับนักออกแบบ Webflow เน้นการออกแบบเว็บไซต์โดยไม่ต้องเขียนโค้ด แต่ยังคงมีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งสูง เหมาะสำหรับนักออกแบบและผู้ที่ต้องการควบคุมการออกแบบเว็บไซต์ได้อย่างละเอียด

  • ข้อดี: ออกแบบได้อิสระ, ไม่ต้องเขียนโค้ด, เหมาะสำหรับนักออกแบบ
  • ข้อเสีย: อาจมีความซับซ้อนในการเรียนรู้, ราคาค่อนข้างสูง

6. Showit: แพลตฟอร์มสำหรับนักออกแบบที่เน้นความสวยงามและความคิดสร้างสรรค์ Showit ให้คุณออกแบบเว็บไซต์ได้อย่างอิสระ โดยใช้เครื่องมือออกแบบที่คล้ายกับ Photoshop เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์ที่โดดเด่น และมีเอกลักษณ์

  • ข้อดี: ออกแบบได้อิสระ, เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่เน้นความสวยงาม
  • ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง, อาจมีความซับซ้อนในการเรียนรู้

การเลือกโปรแกรมออกแบบเว็บไซต์ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณ ลองพิจารณาข้อดีข้อเสียของแต่ละโปรแกรม และเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับคุณที่สุด เพื่อสร้างเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จในปี 2023 นี้.