เช็คสภาพแบตโน๊ตบุ๊คยังไง

0 การดู

ตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่โน้ตบุ๊ก Windows 11 ได้ง่ายๆ ด้วยการสร้างรายงานแบตเตอรี่ เพียงพิมพ์ powercfg /batteryreport ใน Command Prompt (เรียกใช้ในฐานะผู้ดูแลระบบ) แล้วกด Enter ระบบจะสร้างรายงาน HTML แสดงรายละเอียดการใช้งานและสุขภาพแบตเตอรี่ ช่วยให้คุณทราบประสิทธิภาพและอายุการใช้งานที่เหลืออยู่

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

วิธีตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่โน้ตบุ๊ก Windows 11

สุขภาพของแบตเตอรี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่พึ่งพาโน้ตบุ๊กในชีวิตประจำวัน การตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่เป็นประจำจะช่วยให้คุณวางแผนการบำรุงรักษาหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่จำเป็นได้ล่วงหน้า ใน Windows 11 คุณสามารถใช้เครื่องมือในตัวเพื่อสร้างรายงานแบตเตอรี่ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาพและประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ในปัจจุบัน

ขั้นตอนที่ 1: เรียกใช้ Command Prompt ในฐานะผู้ดูแลระบบ

  • คลิกขวาที่ปุ่ม Start แล้วเลือก “Command Prompt (Admin)”

ขั้นตอนที่ 2: สร้างรายงานแบตเตอรี่

  • ใน Command Prompt ให้พิมพ์คำสั่งต่อไปนี้แล้วกด Enter:
powercfg /batteryreport
  • ระบบจะสร้างไฟล์ HTML ชื่อ “battery-report.html” ในโฟลเดอร์ผู้ใช้ของคุณ

ขั้นตอนที่ 3: เปิดรายงานแบตเตอรี่

  • เปิดไฟล์ “battery-report.html” ในเว็บเบราว์เซอร์ของคุณ

ขั้นตอนที่ 4: ตรวจสอบรายงาน

  • รายงานแบตเตอรี่ประกอบด้วยข้อมูลต่อไปนี้:

    • ข้อมูลแบตเตอรี่: แสดงข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับแบตเตอรี่ เช่น ความจุ การคายประจุ และจำนวนรอบการชาร์จ
    • ประวัติการใช้งานแบตเตอรี่: แสดงกราฟที่แสดงรอบการชาร์จและการคายประจุในช่วงเวลาที่กำหนด
    • สุขภาพแบตเตอรี่: แสดงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่เป็นเปอร์เซ็นต์ของความจุเริ่มต้น
    • ประสิทธิภาพแบตเตอรี่: แสดงข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของแบตเตอรี่เมื่อเทียบกับความจุเริ่มต้น
    • ประวัติการชาร์จแบตเตอรี่: แสดงรายการกิจกรรมการชาร์จในช่วงเวลาที่กำหนด รวมถึงเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุด

ขั้นตอนที่ 5: วิเคราะห์รายงาน

  • สุขภาพแบตเตอรี่ที่มากกว่า 80% ถือว่าอยู่ในสภาพดี
  • สุขภาพแบตเตอรี่ระหว่าง 50-80% ยังคงใช้งานได้ แต่ควรพิจารณาเปลี่ยนแบตเตอรี่
  • สุขภาพแบตเตอรี่ต่ำกว่า 50% แสดงว่าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพอย่างมากและควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่

เคล็ดลับในการยืดอายุแบตเตอรี่

  • ชาร์จแบตเตอรี่หลังจากคายประจุแล้ว 20-30%
  • หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% หรือคายประจุจนหมดเกลี้ยง
  • ใช้การตั้งค่าประหยัดพลังงานเมื่อเป็นไปได้
  • ปิดโปรแกรมและแอพพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้
  • ปรับความสว่างหน้าจอให้อยู่ในระดับที่เพียงพอ