เมื่อเปิดคอมพิวเตอร์แล้วไม่ติด ควรตรวจสอบอะไรบ้าง

3 การดู

ก่อนอื่น ตรวจสอบสายไฟและปลั๊กไฟว่าต่อแน่นดีหรือไม่ ลองเสียบปลั๊กกับเต้ารับอื่นดู จากนั้นเช็คสวิตช์ที่ตัวเครื่องและสายไฟภายในว่ามีหลุดหรือเสียหายหรือไม่ ถ้ายังไม่ติด ลองกดปุ่มเปิดเครื่องค้างไว้สัก 5 วินาที และสังเกตเสียงหรือไฟแสดงสถานะผิดปกติใดๆ หากยังไม่สามารถแก้ไขได้ ควรขอความช่วยเหลือจากช่างผู้เชี่ยวชาญ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

คอมพิวเตอร์ไม่ติด! เช็กอะไรก่อนเรียกช่าง

ปัญหาคอมพิวเตอร์ไม่ติดเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราต้องการใช้งานด่วน ก่อนที่จะเสียเวลาและค่าใช้จ่ายกับการเรียกช่างซ่อม ลองตรวจสอบข้อผิดพลาดเบื้องต้นเหล่านี้ดูก่อน อาจช่วยแก้ปัญหาได้ง่ายๆ และรวดเร็ว โดยไม่ต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญเลยทีเดียว

ขั้นตอนการตรวจสอบเบื้องต้น:

1. ตรวจสอบแหล่งจ่ายไฟ (Power Supply): นี่คือขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุด เนื่องจากปัญหาส่วนใหญ่มาจากแหล่งจ่ายไฟที่ไม่ทำงาน ให้ทำดังนี้:

  • ตรวจสอบสายไฟและปลั๊ก: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายไฟเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และปลั๊กไฟอย่างแน่นหนา ลองดึงสายไฟออกแล้วเสียบใหม่เบาๆ อย่าใช้แรงมากเกินไป ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปลั๊กไฟไม่หลวมหรือชำรุด
  • ลองเปลี่ยนเต้ารับ: เสียบปลั๊กไฟเข้ากับเต้ารับอื่นๆ เพื่อตรวจสอบว่าเต้ารับเดิมมีปัญหาหรือไม่ ลองใช้เต้ารับที่ใช้งานได้ปกติกับอุปกรณ์อื่น เพื่อยืนยันว่าเต้ารับนั้นทำงานได้ดี
  • ตรวจสอบ Power Strip (ถ้ามี): หากใช้ Power Strip อยู่ ให้ตรวจสอบว่า Power Strip นั้นเปิดอยู่หรือไม่ และลองเสียบคอมพิวเตอร์โดยตรงกับเต้ารับไฟโดยไม่ผ่าน Power Strip เพื่อดูว่า Power Strip เป็นสาเหตุของปัญหาหรือไม่
  • สังเกตไฟแสดงสถานะ: สังเกตไฟ LED บนตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ และ Power Supply โดยปกติแล้วจะมีไฟแสดงสถานะว่ากำลังจ่ายไฟอยู่หรือไม่ หากไม่มีไฟแสดงสถานะใดๆ เลย แสดงว่าอาจมีปัญหาที่แหล่งจ่ายไฟ (อาจต้องตรวจสอบสายไฟภายใน Power Supply ด้วย แต่ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการเปิดฝาเคส)

2. ตรวจสอบสวิตช์และสายไฟภายใน:

  • สวิตช์ที่ตัวเครื่อง: ตรวจสอบสวิตช์เปิด-ปิดที่ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ให้แน่ใจว่าสวิตช์อยู่ในตำแหน่งเปิด หากเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ อาจต้องตรวจสอบสวิตช์ที่ด้านหลังของเคสด้วย
  • สายไฟภายใน (สำหรับผู้ที่มีความรู้เท่านั้น): หากมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ระดับหนึ่ง สามารถเปิดเคสคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบสายไฟภายในว่าหลวมหรือชำรุดหรือไม่ แต่หากไม่มั่นใจ ไม่ควรทำ เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมได้

3. ทดสอบการกดปุ่ม Power:

  • กดค้างนาน 5 วินาที: ลองกดปุ่ม Power ค้างไว้ประมาณ 5-10 วินาที เพื่อรีเซ็ตระบบ บางครั้งอาจช่วยแก้ปัญหาการค้างหรือ Boot loop ได้

4. สังเกตเสียงและไฟผิดปกติ:

  • เสียงผิดปกติ: ให้ฟังเสียงผิดปกติจากภายในเครื่อง เช่น เสียงพัดลมหมุนแรงผิดปกติ หรือเสียงดังผิดปกติอื่นๆ ซึ่งอาจบ่งบอกถึงปัญหาฮาร์ดแวร์
  • ไฟแสดงสถานะผิดปกติ: สังเกตไฟแสดงสถานะต่างๆ เช่น ไฟ HDD ไฟ Power หรือไฟอื่นๆ บนเมนบอร์ด หากมีไฟกระพริบผิดปกติ หรือไม่ติดเลย อาจบ่งบอกถึงปัญหาที่ฮาร์ดแวร์

หากลองทำตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว คอมพิวเตอร์ยังไม่ติด ควรขอความช่วยเหลือจากช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ผู้เชี่ยวชาญ การพยายามแก้ไขด้วยตนเองโดยไม่มีความรู้ อาจทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมได้ การปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่สุดในการแก้ปัญหา อย่าลืมแจ้งรายละเอียดสิ่งที่ได้ลองทำไปแล้วกับช่าง เพื่อให้ช่างสามารถวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

บทความนี้มุ่งหวังที่จะให้ความรู้เบื้องต้น ไม่ใช่คำแนะนำการซ่อมแซมโดยตรง หากไม่มั่นใจ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเสมอ