แบตไอโฟน13 กี่เปอร์เซ็นต์ควรเปลี่ยน

เมื่อใดควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone 13

แบตเตอรี่เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ iPhone ของคุณทำงานได้ราวกับปาฏิหาริย์ อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่จะค่อยๆ เสื่อมสภาพตามกาลเวลา ทำให้ความจุลดลงและประสิทธิภาพการทำงานแย่ลง แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone 13 ของคุณแล้ว?

สัญญาณบ่งชี้ว่าถึงเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่

• ความจุสูงสุดต่ำกว่า 80%: ความจุสูงสุดเป็นตัววัดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ เมื่อความจุสูงสุดลดลงต่ำกว่า 80% แสดงว่าแบตเตอรี่ของคุณเสื่อมสภาพอย่างมีนัยสำคัญและอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของ iPhone
• แบตเตอรี่หมดเร็วผิดปกติ: หากคุณสังเกตว่าแบตเตอรี่ iPhone 13 ของคุณหมดเร็วกว่าปกติ แม้ว่าจะอยู่ในโหมดสแตนด์บายก็ตาม อาจเป็นสัญญาณว่าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพแล้ว
• เครื่องดับเองบ่อยครั้ง: หาก iPhone 13 ของคุณดับเองบ่อยครั้ง แม้ว่าแบตเตอรี่จะยังไม่หมด อาจเป็นเพราะแบตเตอรี่ไม่สามารถจ่ายพลังงานได้เพียงพอ
• ปัญหาประสิทธิภาพอื่นๆ: แบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพอาจทำให้เกิดปัญหาประสิทธิภาพอื่นๆ ได้ เช่น การหน่วงเวลามากเป็นพิเศษ แอพทำงานผิดปกติ หรือหน้าจอหรี่ลง

เมื่อใดควรเปลี่ยนแบตเตอรี่

โดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone 13 เมื่อความจุสูงสุดลดลงต่ำกว่า 80% หรือเมื่อคุณพบอาการข้างต้นที่ระบุไว้ข้างต้น การเปลี่ยนแบตเตอรี่จะช่วยปรับปรุงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ประสิทธิภาพการทำงาน และประสบการณ์ผู้ใช้โดยรวมของ iPhone ของคุณ

สิ่งที่ควรทำหากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ

หากคุณคิดว่าแบตเตอรี่ iPhone 13 ของคุณเสื่อมสภาพแล้ว มีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้:

• ตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่: ไปที่การตั้งค่า > แบตเตอรี่ > สุขภาพแบตเตอรี่ เพื่อดูความจุสูงสุดปัจจุบันและสถานะแบตเตอรี่
• อัปเดตเป็น iOS เวอร์ชันล่าสุด: การอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุดมักมีการปรับปรุงและแก้ไขที่สามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพแบตเตอรี่
• เปลี่ยนแบตเตอรี่: หากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพอย่างมาก คุณอาจต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยช่างเทคนิคที่ได้รับการรับรองจาก Apple

การเปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone 13 อาจเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่าโทรศัพท์ของคุณทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ถึงเวลาแล้วที่จะพิจารณาเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อความจุสูงสุดลดลงต่ำกว่า 80% หรือเมื่อคุณพบกับอาการที่บ่งชี้ว่าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ