แหล่งสารสนเทศมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

2 การดู

แหล่งสารสนเทศแบ่งตามลำดับการผลิตเป็น 3 ประเภทหลัก: ปฐมภูมิ (ข้อมูลต้นฉบับ), ทุติยภูมิ (วิเคราะห์/สังเคราะห์จากปฐมภูมิ) และตติยภูมิ (รวบรวม/ชี้แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ) การเลือกใช้แหล่งข้อมูลที่เหมาะสม ช่วยให้การวิจัยน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะข้อมูลปฐมภูมิมีความสำคัญต่อความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของงานวิชาการ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ย้อนรอยแหล่งสารสนเทศ: มากกว่าแค่ปฐมภูมิ-ทุติยภูมิ-ตติยภูมิ

การค้นคว้าและวิจัยนั้นอาศัยแหล่งสารสนเทศเป็นรากฐานสำคัญ ความน่าเชื่อถือและความถูกต้องของผลงานขึ้นอยู่กับการเลือกใช้แหล่งข้อมูลที่เหมาะสม แม้ว่าเราจะคุ้นเคยกับการจำแนกแหล่งสารสนเทศเป็นสามประเภทหลัก ได้แก่ ปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ แต่การทำความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับลักษณะและความแตกต่างของแต่ละประเภทนั้น จะช่วยให้เราสามารถเลือกใช้แหล่งข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ

การแบ่งแหล่งสารสนเทศตามลำดับการผลิตเป็นเพียงหนึ่งในหลายวิธีการจำแนก ความจริงแล้ว การจำแนกประเภทของแหล่งสารสนเทศนั้นมีความหลากหลายและซับซ้อนกว่าที่คิด เราสามารถแบ่งประเภทได้ตามเกณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น ตามรูปแบบสื่อ ตามลักษณะของข้อมูล หรือตามวัตถุประสงค์การใช้งาน แต่เพื่อความเข้าใจง่าย เราจะเน้นการจำแนกตามลำดับการผลิตเป็นหลัก พร้อมกับขยายความให้ครอบคลุมมุมมองอื่นๆ เพิ่มเติม

1. แหล่งสารสนเทศปฐมภูมิ (Primary Sources): คือแหล่งข้อมูลต้นฉบับ เป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์หรือปรากฏการณ์นั้นๆ โดยตรง ตัวอย่างเช่น

  • งานวิจัยเชิงประจักษ์: รายงานผลการทดลอง การสำรวจ การสังเกตการณ์ การศึกษาเชิงคุณภาพ
  • เอกสารประวัติศาสตร์: จดหมาย ไดอารี่ บันทึกการประชุม ภาพถ่าย วิดีโอ สิ่งประดิษฐ์ จากช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์
  • ผลงานศิลปะดั้งเดิม: ภาพวาด ประติมากรรม ดนตรี วรรณกรรมต้นฉบับ
  • ข้อมูลทางสถิติดิบ: ข้อมูลที่รวบรวมโดยตรงจากแหล่งกำเนิด ก่อนที่จะมีการวิเคราะห์หรือประมวลผล

2. แหล่งสารสนเทศทุติยภูมิ (Secondary Sources): เป็นการวิเคราะห์ ตีความ สรุป หรือสังเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งสารสนเทศปฐมภูมิ ตัวอย่างเช่น

  • บทความวิชาการ: บทความที่วิเคราะห์ผลการวิจัยจากงานวิจัยอื่นๆ
  • หนังสือเรียน: หนังสือที่รวบรวมและอธิบายความรู้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ
  • บทวิจารณ์หนังสือ: การวิเคราะห์และประเมินคุณค่าของหนังสือ
  • รายงานสรุปผลการวิจัย: รายงานที่สรุปผลการวิจัยหลายชิ้น หรือวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่ง

3. แหล่งสารสนเทศตติยภูมิ (Tertiary Sources): เป็นการรวบรวม จัดระบบ หรือชี้แนะแหล่งสารสนเทศทุติยภูมิ ตัวอย่างเช่น

  • สารานุกรม: รวบรวมความรู้ต่างๆ พร้อมทั้งอ้างอิงแหล่งข้อมูล
  • ดัชนีและฐานข้อมูล: เป็นเครื่องมือในการค้นหาแหล่งสารสนเทศอื่นๆ
  • คู่มือการวิจัย: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการวิจัยและแหล่งข้อมูลต่างๆ
  • รายการบรรณานุกรม: รายการหนังสือและเอกสารอ้างอิง

เหนือกว่าการจำแนกประเภท: การเลือกใช้แหล่งสารสนเทศนั้น ไม่ควรยึดติดกับการจำแนกประเภทเพียงอย่างเดียว ควรพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง และความทันสมัยของข้อมูลด้วย แหล่งสารสนเทศปฐมภูมิอาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป บางครั้งข้อมูลทุติยภูมิที่ผ่านการวิเคราะห์และสังเคราะห์อย่างรอบคอบ อาจให้ภาพรวมที่ชัดเจนกว่า สำคัญที่สุดคือการวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง และอ้างอิงแหล่งข้อมูลอย่างถูกต้อง เพื่อให้ผลงานวิจัยมีความน่าเชื่อถือและมีคุณค่า

บทความนี้ได้ขยายความให้เห็นภาพที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ ไม่ใช่เพียงแค่การจำแนกประเภทแหล่งสารสนเทศอย่างผิวเผินเท่านั้น