แอร์ 12 000 btu กินไฟชั่วโมงละกี่บาท

แอร์ 12,000 BTU กินไฟชั่วโมงละกี่บาท? ไขข้อข้องใจ พร้อมวิธีประหยัดไฟฟ้า

คำถามที่หลายคนสงสัยและเป็นเรื่องใกล้ตัวอย่างยิ่งคือ แอร์ 12,000 BTU กินไฟชั่วโมงละกี่บาท? คำตอบที่ชัดเจนคือ ไม่มีคำตอบตายตัว เพราะปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้ไฟฟ้าของแอร์นั้นมีหลายอย่าง ไม่ใช่แค่ขนาด BTU เท่านั้น

ขนาด BTU (British Thermal Unit) บอกแค่กำลังความเย็นของแอร์ แต่ไม่ได้บอกปริมาณการใช้ไฟฟ้า ปัจจัยสำคัญอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการใช้พลังงานไฟฟ้า ได้แก่:

• ประสิทธิภาพพลังงาน (EER หรือ SEER): ยิ่งค่า EER หรือ SEER สูง ยิ่งหมายความว่าแอร์นั้นใช้พลังงานน้อยลงในการผลิตความเย็นระดับเดียวกัน แอร์รุ่นใหม่ๆ มักจะมีค่า EER/SEER ที่สูงกว่ารุ่นเก่า ส่งผลให้ประหยัดไฟฟ้ามากขึ้น
• อุณหภูมิภายนอก: ยิ่งอุณหภูมิภายนอกสูง แอร์ก็ต้องทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้กินไฟมากขึ้น
• การใช้งาน: การเปิดแอร์ต่อเนื่องหรือเปิดปิดบ่อยๆ ส่งผลต่อการใช้พลังงาน การเปิดแอร์ในห้องที่มีฉนวนกันความร้อนที่ดี จะช่วยประหยัดไฟได้มากขึ้น
• สภาพแอร์: แอร์ที่สกปรก แผ่นกรองอุดตัน หรือมีปัญหาทางเทคนิค จะกินไฟมากกว่าแอร์ที่สะอาดและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
• ราคาไฟฟ้า: ราคาไฟฟ้าที่เรียกเก็บจากการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย มีผลต่อค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงโดยตรง

การประเมินคร่าวๆ: แอร์ 12,000 BTU รุ่นประหยัดพลังงาน อาจกินไฟประมาณ 500-800 วัตต์ หากคิดราคาไฟฟ้าหน่วยละ 4 บาท ค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงอาจอยู่ที่ประมาณ 2-3 บาท แต่หากเป็นแอร์รุ่นเก่าหรือมีประสิทธิภาพต่ำ ค่าใช้จ่ายอาจสูงถึง 4 บาทขึ้นไปต่อชั่วโมง หรือมากกว่านั้นในสภาพอากาศที่ร้อนจัด

วิธีประหยัดค่าไฟฟ้าจากการใช้แอร์:

นอกจากการเลือกแอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงแล้ว เรายังสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้:

• เลือกโหมดประหยัดพลังงาน: หลายรุ่นมีโหมดนี้ ช่วยลดการใช้พลังงานโดยลดความแรงของพัดลมและคอมเพรสเซอร์
• ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม: ตั้งอุณหภูมิที่ 25-27 องศาเซลเซียส เป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมและช่วยประหยัดพลังงานได้ดี การลดอุณหภูมิลง 1 องศา อาจทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ
• ทำความสะอาดแผ่นกรองแอร์: ทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือตามความถี่ที่ผู้ผลิตกำหนด แผ่นกรองที่สะอาดจะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดไฟฟ้ามากขึ้น
• ปิดแอร์เมื่อไม่อยู่ในห้อง: การปิดแอร์เมื่อไม่อยู่ในห้องเป็นเวลานาน เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงในการประหยัดค่าไฟฟ้า
• ใช้พัดลมร่วมกับแอร์: การใช้พัดลมช่วยกระจายความเย็นได้ดีขึ้น ทำให้สามารถปรับอุณหภูมิแอร์ให้สูงขึ้นได้ และประหยัดพลังงานมากขึ้น

การคำนวณค่าใช้จ่ายที่แท้จริง ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง แนะนำให้ตรวจสอบฉลากประสิทธิภาพพลังงานของแอร์ และสังเกตการใช้ไฟฟ้าจริงจากมิเตอร์ไฟฟ้า เพื่อการวางแผนงบประมาณค่าไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำมากขึ้น